Radeon RX 9070 เทียบกับ 680M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 680M กับ Radeon RX 9070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 9070 มีประสิทธิภาพดีกว่า 680M อย่างมหาศาลถึง 644% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 535 | 41 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 62.16 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.82 | 19.98 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Rembrandt+ | Navi 48 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 768 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2000 MHz | 1330 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2200 MHz | 2520 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,100 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 105.6 | 564.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.379 TFLOPS | 36.13 TFLOPS |
ROPs | 32 | 128 |
TMUs | 48 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 112 |
Ray Tracing Cores | 12 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 2518 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 37
−430%
| 196
+430%
|
1440p | 17
−600%
| 119
+600%
|
4K | 11
−582%
| 75
+582%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.80 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.61 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.32 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Baldur's Gate 3 | 32
−872%
|
311
+872%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−612%
|
290−300
+612%
|
Cyberpunk 2077 | 38
−289%
|
140−150
+289%
|
Full HD
Medium Preset
Baldur's Gate 3 | 24
−917%
|
244
+917%
|
Battlefield 5 | 35−40
−364%
|
160−170
+364%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−612%
|
290−300
+612%
|
Cyberpunk 2077 | 28
−429%
|
140−150
+429%
|
Far Cry 5 | 38
−671%
|
293
+671%
|
Fortnite | 45−50
−471%
|
280−290
+471%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−544%
|
230−240
+544%
|
Forza Horizon 5 | 52
−244%
|
170−180
+244%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−507%
|
170−180
+507%
|
Valorant | 80−85
−302%
|
300−350
+302%
|
Full HD
High Preset
Baldur's Gate 3 | 20
−945%
|
209
+945%
|
Battlefield 5 | 35−40
−364%
|
160−170
+364%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−612%
|
290−300
+612%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−119%
|
270−280
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 21
−605%
|
140−150
+605%
|
Dota 2 | 71
−604%
|
500−550
+604%
|
Far Cry 5 | 35
−711%
|
284
+711%
|
Fortnite | 45−50
−471%
|
280−290
+471%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−544%
|
230−240
+544%
|
Forza Horizon 5 | 46
−289%
|
170−180
+289%
|
Grand Theft Auto V | 36
−353%
|
160−170
+353%
|
Metro Exodus | 23
−557%
|
150−160
+557%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−507%
|
170−180
+507%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−1008%
|
443
+1008%
|
Valorant | 80−85
−302%
|
300−350
+302%
|
Full HD
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 20
−920%
|
204
+920%
|
Battlefield 5 | 35−40
−364%
|
160−170
+364%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−722%
|
140−150
+722%
|
Dota 2 | 61
−638%
|
450−500
+638%
|
Far Cry 5 | 33
−715%
|
269
+715%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−544%
|
230−240
+544%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−507%
|
170−180
+507%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24
−942%
|
250
+942%
|
Valorant | 146
−126%
|
300−350
+126%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−471%
|
280−290
+471%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 14−16
−1157%
|
170−180
+1157%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 60−65
−619%
|
400−450
+619%
|
Grand Theft Auto V | 17
−647%
|
120−130
+647%
|
Metro Exodus | 9−10
−989%
|
95−100
+989%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−327%
|
170−180
+327%
|
Valorant | 90−95
−321%
|
350−400
+321%
|
1440p
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 9−10
−1533%
|
147
+1533%
|
Battlefield 5 | 18−20
−717%
|
140−150
+717%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−720%
|
80−85
+720%
|
Far Cry 5 | 21
−1062%
|
244
+1062%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−932%
|
190−200
+932%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 17
−1024%
|
191
+1024%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−788%
|
150−160
+788%
|
4K
High Preset
Baldur's Gate 3 | 2−3
−3300%
|
65−70
+3300%
|
Counter-Strike 2 | 1−2
−7800%
|
75−80
+7800%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−663%
|
140−150
+663%
|
Metro Exodus | 3−4
−1967%
|
60−65
+1967%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
−1177%
|
166
+1177%
|
Valorant | 40−45
−671%
|
300−350
+671%
|
4K
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 2−3
−3850%
|
79
+3850%
|
Battlefield 5 | 9−10
−1067%
|
100−110
+1067%
|
Counter-Strike 2 | 1−2
−7800%
|
75−80
+7800%
|
Cyberpunk 2077 | 4
−875%
|
35−40
+875%
|
Dota 2 | 18
−622%
|
130−140
+622%
|
Far Cry 5 | 8−9
−1575%
|
134
+1575%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−1023%
|
140−150
+1023%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
−1100%
|
95−100
+1100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−888%
|
75−80
+888%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 680M และ RX 9070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 เร็วกว่า 430% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 เร็วกว่า 600% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 เร็วกว่า 582% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 9070 เร็วกว่า 7800%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 9070 เหนือกว่า Radeon 680M ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 8.35 | 62.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 6 มีนาคม 2025 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 220 วัตต์ |
Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 340%
ในทางกลับกัน RX 9070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 643.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
Radeon RX 9070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 680M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon 680M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ Radeon RX 9070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป