GeForce RTX 5060 Ti เทียบกับ RTX A2000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX A2000 กับ GeForce RTX 5060 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างน่าประทับใจ 77% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 163 | 43 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 90.82 | 93.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 34.35 | 24.38 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | GB206 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 16 เมษายน 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $449 | $379 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX A2000 อยู่ 3%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3328 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 562 MHz | 2407 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 2572 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 124.8 | 370.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.987 TFLOPS | 23.7 TFLOPS |
ROPs | 48 | 48 |
TMUs | 104 | 144 |
Tensor Cores | 104 | 144 |
Ray Tracing Cores | 26 | 36 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 167 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1750 MHz |
288.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.6 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 91
−75.8%
| 160−170
+75.8%
|
1440p | 43
−74.4%
| 75−80
+74.4%
|
4K | 28
−60.7%
| 45−50
+60.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.93
−108%
| 2.37
+108%
|
1440p | 10.44
−107%
| 5.05
+107%
|
4K | 16.04
−90.4%
| 8.42
+90.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 180−190
−59.9%
|
290−300
+59.9%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−97.3%
|
140−150
+97.3%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−95.9%
|
140−150
+95.9%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 110−120
−40.3%
|
160−170
+40.3%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−59.9%
|
290−300
+59.9%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−97.3%
|
140−150
+97.3%
|
Far Cry 5 | 108
−60.2%
|
170−180
+60.2%
|
Fortnite | 140−150
−90.5%
|
280−290
+90.5%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−81.3%
|
230−240
+81.3%
|
Forza Horizon 5 | 121
−44.6%
|
170−180
+44.6%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−95.9%
|
140−150
+95.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−34.4%
|
170−180
+34.4%
|
Valorant | 200−210
−63.4%
|
300−350
+63.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 110−120
−40.3%
|
160−170
+40.3%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−59.9%
|
290−300
+59.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.4%
|
270−280
+0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−97.3%
|
140−150
+97.3%
|
Far Cry 5 | 98
−76.5%
|
170−180
+76.5%
|
Fortnite | 140−150
−90.5%
|
280−290
+90.5%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−81.3%
|
230−240
+81.3%
|
Forza Horizon 5 | 106
−65.1%
|
170−180
+65.1%
|
Grand Theft Auto V | 129
−26.4%
|
160−170
+26.4%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−95.9%
|
140−150
+95.9%
|
Metro Exodus | 60
−152%
|
150−160
+152%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−34.4%
|
170−180
+34.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 117
−111%
|
240−250
+111%
|
Valorant | 200−210
−63.4%
|
300−350
+63.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−40.3%
|
160−170
+40.3%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−97.3%
|
140−150
+97.3%
|
Far Cry 5 | 91
−90.1%
|
170−180
+90.1%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−81.3%
|
230−240
+81.3%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−95.9%
|
140−150
+95.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−34.4%
|
170−180
+34.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−286%
|
240−250
+286%
|
Valorant | 200−210
−63.4%
|
300−350
+63.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−90.5%
|
280−290
+90.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
−124%
|
170−180
+124%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−96.1%
|
400−450
+96.1%
|
Grand Theft Auto V | 58
−117%
|
120−130
+117%
|
Metro Exodus | 34
−188%
|
95−100
+188%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−63.3%
|
350−400
+63.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 85−90
−69%
|
140−150
+69%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−128%
|
80−85
+128%
|
Far Cry 5 | 61
−144%
|
140−150
+144%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−118%
|
190−200
+118%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−105%
|
75−80
+105%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 47
−191%
|
130−140
+191%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−79.8%
|
150−160
+79.8%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−114%
|
75−80
+114%
|
Grand Theft Auto V | 56
−159%
|
140−150
+159%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−100%
|
40−45
+100%
|
Metro Exodus | 20
−210%
|
60−65
+210%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−190%
|
110−120
+190%
|
Valorant | 190−200
−62.8%
|
300−350
+62.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−102%
|
100−110
+102%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−114%
|
75−80
+114%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−144%
|
35−40
+144%
|
Far Cry 5 | 30
−210%
|
90−95
+210%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−143%
|
140−150
+143%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−100%
|
40−45
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−140%
|
95−100
+140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−97.5%
|
75−80
+97.5%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A2000 และ RTX 5060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 76% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 74% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 61% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5060 Ti เร็วกว่า 286%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 Ti เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 32.23 | 57.15 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 สิงหาคม 2021 | 16 เมษายน 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 วัตต์ | 180 วัตต์ |
RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 157.1%
ในทางกลับกัน RTX 5060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 77.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
GeForce RTX 5060 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX A2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 5060 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป