GeForce RTX 3080 12 GB เทียบกับ RTX A2000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX A2000 กับ GeForce RTX 3080 12 GB รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3080 12 GB มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างน่าประทับใจ 96% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 148 | 31 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 92.97 | 41.06 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 34.55 | 13.53 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | GA102 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 11 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $449 | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX A2000 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 12 GB อยู่ 126%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3328 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 562 MHz | 1260 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 Watt | 350 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 124.8 | 478.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.987 TFLOPS | 30.64 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 104 | 280 |
Tensor Cores | 104 | 280 |
Ray Tracing Cores | 26 | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 167 mm | 285 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1188 MHz |
288.0 จีบี/s | 912.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.6 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 92
−97.8%
| 182
+97.8%
|
1440p | 44
−175%
| 121
+175%
|
4K | 28
−193%
| 82
+193%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.88
−11.2%
| 4.39
+11.2%
|
1440p | 10.20
−54.5%
| 6.60
+54.5%
|
4K | 16.04
−64.6%
| 9.74
+64.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 95−100
−106%
|
190−200
+106%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−66%
|
300−350
+66%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−113%
|
160−170
+113%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 95−100
−158%
|
248
+158%
|
Battlefield 5 | 110−120
−45.4%
|
170−180
+45.4%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−76.1%
|
331
+76.1%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−113%
|
160−170
+113%
|
Far Cry 5 | 108
−58.3%
|
171
+58.3%
|
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−96.9%
|
250−260
+96.9%
|
Forza Horizon 5 | 121
−41.3%
|
171
+41.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
Valorant | 200−210
−77.7%
|
350−400
+77.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 95−100
−51%
|
145
+51%
|
Battlefield 5 | 110−120
−45.4%
|
170−180
+45.4%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−61.2%
|
303
+61.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−113%
|
160−170
+113%
|
Far Cry 5 | 98
−65.3%
|
162
+65.3%
|
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−96.9%
|
250−260
+96.9%
|
Forza Horizon 5 | 106
−50%
|
159
+50%
|
Grand Theft Auto V | 129
−20.2%
|
155
+20.2%
|
Metro Exodus | 60
−145%
|
147
+145%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 117
−174%
|
321
+174%
|
Valorant | 200−210
−77.7%
|
350−400
+77.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−45.4%
|
170−180
+45.4%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−113%
|
160−170
+113%
|
Far Cry 5 | 91
−65.9%
|
151
+65.9%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−96.9%
|
250−260
+96.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−158%
|
165
+158%
|
Valorant | 200−210
−77.7%
|
350−400
+77.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80−85
−153%
|
202
+153%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−118%
|
450−500
+118%
|
Grand Theft Auto V | 58
−124%
|
130
+124%
|
Metro Exodus | 34
−188%
|
98
+188%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−84%
|
400−450
+84%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 85−90
−83.9%
|
160−170
+83.9%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−153%
|
90−95
+153%
|
Far Cry 5 | 61
−141%
|
147
+141%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−140%
|
210−220
+140%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 47
−217%
|
140−150
+217%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−79.8%
|
150−160
+79.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−127%
|
55−60
+127%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−48.6%
|
55
+48.6%
|
Grand Theft Auto V | 56
−204%
|
170
+204%
|
Metro Exodus | 20
−225%
|
65
+225%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−230%
|
132
+230%
|
Valorant | 190−200
−66.3%
|
300−350
+66.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−129%
|
110−120
+129%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−135%
|
85−90
+135%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−175%
|
40−45
+175%
|
Far Cry 5 | 30
−240%
|
102
+240%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−180%
|
160−170
+180%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−140%
|
95−100
+140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−97.5%
|
75−80
+97.5%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 176
+0%
|
176
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 161
+0%
|
161
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 156
+0%
|
156
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A2000 และ RTX 3080 12 GB แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 98% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 175% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 193% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 240%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.38 | 59.46 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 สิงหาคม 2021 | 11 มกราคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 วัตต์ | 350 วัตต์ |
RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 400%
ในทางกลับกัน RTX 3080 12 GB มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 95.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 เดือนและ
GeForce RTX 3080 12 GB เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX A2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 3080 12 GB เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป