GeForce RTX 4070 Ti SUPER เทียบกับ RTX 4090
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4090 และ GeForce RTX 4070 Ti SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4090 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4070 Ti SUPER อย่างมาก 21% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 2 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | 8 | 91 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.86 | 49.05 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.28 | 19.95 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD102 | AD103 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,599 | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 Ti SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4090 อยู่ 160%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 16384 | 8448 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2235 MHz | 2340 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2520 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 76,300 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 1,290 | 689.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 82.58 TFLOPS | 44.1 TFLOPS |
ROPs | 176 | 96 |
TMUs | 512 | 264 |
Tensor Cores | 512 | 264 |
Ray Tracing Cores | 128 | 66 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 304 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 1313 MHz |
1.01 ทีบี/s | 672.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 259
+13.6%
| 228
−13.6%
|
1440p | 198
+32%
| 150
−32%
|
4K | 142
+63.2%
| 87
−63.2%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 6.17
−76.2%
| 3.50
+76.2%
|
1440p | 8.08
−51.6%
| 5.33
+51.6%
|
4K | 11.26
−22.6%
| 9.18
+22.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 324
+41.5%
|
220−230
−41.5%
|
Counter-Strike 2 | 212
+12.2%
|
189
−12.2%
|
Cyberpunk 2077 | 227
+15.2%
|
197
−15.2%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 265
+15.7%
|
220−230
−15.7%
|
Battlefield 5 | 190−200
+2.1%
|
190−200
−2.1%
|
Counter-Strike 2 | 215
+13.8%
|
189
−13.8%
|
Cyberpunk 2077 | 224
+14.3%
|
196
−14.3%
|
Far Cry 5 | 209
+3%
|
203
−3%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+8.9%
|
300−350
−8.9%
|
Forza Horizon 5 | 281
+29.5%
|
210−220
−29.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 650−700
+43.5%
|
450−500
−43.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 234
+2.2%
|
220−230
−2.2%
|
Battlefield 5 | 190−200
+2.1%
|
190−200
−2.1%
|
Counter-Strike 2 | 199
+16.4%
|
171
−16.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 215
+25%
|
172
−25%
|
Dota 2 | 253
+26.5%
|
200−210
−26.5%
|
Far Cry 5 | 201
+2%
|
197
−2%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+8.9%
|
300−350
−8.9%
|
Forza Horizon 5 | 275
+26.7%
|
210−220
−26.7%
|
Grand Theft Auto V | 174
+0%
|
174
+0%
|
Metro Exodus | 229
+16.8%
|
196
−16.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 579
+34.7%
|
430
−34.7%
|
Valorant | 650−700
+43.5%
|
450−500
−43.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+2.1%
|
190−200
−2.1%
|
Counter-Strike 2 | 185
+23.3%
|
150
−23.3%
|
Cyberpunk 2077 | 211
+33.5%
|
158
−33.5%
|
Dota 2 | 224
+24.4%
|
180−190
−24.4%
|
Far Cry 5 | 187
−0.5%
|
188
+0.5%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+8.9%
|
300−350
−8.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 305
+45.2%
|
210
−45.2%
|
Valorant | 680
+44.4%
|
450−500
−44.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 170−180
+79.4%
|
95−100
−79.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+0%
|
500−550
+0%
|
Grand Theft Auto V | 162
+4.5%
|
155
−4.5%
|
Metro Exodus | 180
+37.4%
|
131
−37.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+0%
|
450−500
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+0%
|
190−200
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 159
+52.9%
|
104
−52.9%
|
Far Cry 5 | 187
+0%
|
187
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+8.5%
|
280−290
−8.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
+62.9%
|
159
−62.9%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 102
+32.5%
|
75−80
−32.5%
|
Counter-Strike 2 | 130
+80.6%
|
72
−80.6%
|
Grand Theft Auto V | 187
+2.7%
|
182
−2.7%
|
Metro Exodus | 137
+63.1%
|
84
−63.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 280
+48.1%
|
180−190
−48.1%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Counter-Strike 2 | 38
+72.7%
|
22
−72.7%
|
Cyberpunk 2077 | 81
+62%
|
50
−62%
|
Dota 2 | 227
+26.1%
|
180−190
−26.1%
|
Far Cry 5 | 170
+42.9%
|
119
−42.9%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+23%
|
240−250
−23%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4090 และ RTX 4070 Ti SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4090 เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4090 เร็วกว่า 32% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4090 เร็วกว่า 63% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4090 เร็วกว่า 81%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 1%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4090 เหนือกว่าใน 42การทดสอบ (69%)
- RTX 4070 Ti SUPER เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- เสมอกันใน 18การทดสอบ (30%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 99.38 | 82.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2022 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 16 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 วัตต์ | 285 วัตต์ |
RTX 4090 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 20.9% และ
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti SUPER มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 57.9%
GeForce RTX 4090 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4070 Ti SUPER ในการทดสอบประสิทธิภาพ