Arc A580 เทียบกับ GeForce RTX 3080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 Ti และ Arc A580 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A580 อย่างมหาศาลถึง 126% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 25 | 188 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 55 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.74 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.75 | 12.17 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 10 ตุลาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10240 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1365 MHz | 1700 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2000 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 175 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 532.8 | 384.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 34.1 TFLOPS | 12.29 TFLOPS |
ROPs | 112 | 96 |
TMUs | 320 | 192 |
Tensor Cores | 320 | 384 |
Ray Tracing Cores | 80 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2000 MHz |
912.4 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 214
+108%
| 103
−108%
|
1440p | 144
+157%
| 56
−157%
|
4K | 96
+191%
| 33
−191%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.60 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 8.33 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 12.49 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 200−210
+34.9%
|
149
−34.9%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−5.4%
|
331
+5.4%
|
Cyberpunk 2077 | 219
+200%
|
73
−200%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 200−210
+82.7%
|
110
−82.7%
|
Battlefield 5 | 170−180
+59.6%
|
100−110
−59.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+19.4%
|
263
−19.4%
|
Cyberpunk 2077 | 184
+183%
|
65
−183%
|
Far Cry 5 | 208
+55.2%
|
134
−55.2%
|
Fortnite | 300−350
+124%
|
130−140
−124%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+140%
|
107
−140%
|
Forza Horizon 5 | 200
+62.6%
|
123
−62.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+53.9%
|
110−120
−53.9%
|
Valorant | 350−400
+97.3%
|
180−190
−97.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 200−210
+154%
|
79
−154%
|
Battlefield 5 | 170−180
+59.6%
|
100−110
−59.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+143%
|
129
−143%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+2.2%
|
270−280
−2.2%
|
Cyberpunk 2077 | 160
+181%
|
57
−181%
|
Dota 2 | 234
+134%
|
100−105
−134%
|
Far Cry 5 | 198
+62.3%
|
122
−62.3%
|
Fortnite | 300−350
+124%
|
130−140
−124%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+152%
|
102
−152%
|
Forza Horizon 5 | 188
+64.9%
|
114
−64.9%
|
Grand Theft Auto V | 174
+102%
|
86
−102%
|
Metro Exodus | 172
+77.3%
|
97
−77.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+53.9%
|
110−120
−53.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 372
+114%
|
174
−114%
|
Valorant | 350−400
+97.3%
|
180−190
−97.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 196
+79.8%
|
100−110
−79.8%
|
Cyberpunk 2077 | 146
+175%
|
53
−175%
|
Dota 2 | 217
+128%
|
95−100
−128%
|
Far Cry 5 | 186
+63.2%
|
114
−63.2%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+195%
|
87
−195%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+53.9%
|
110−120
−53.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 181
+166%
|
68
−166%
|
Valorant | 388
+109%
|
180−190
−109%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+124%
|
130−140
−124%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 190−200
+149%
|
80
−149%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+151%
|
200−210
−151%
|
Grand Theft Auto V | 153
+314%
|
37
−314%
|
Metro Exodus | 114
+100%
|
57
−100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
+100%
|
220−230
−100%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 192
+143%
|
75−80
−143%
|
Cyberpunk 2077 | 99
+154%
|
39
−154%
|
Far Cry 5 | 176
+102%
|
87
−102%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
+195%
|
75
−195%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
+176%
|
55
−176%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+110%
|
70−75
−110%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 60−65
+161%
|
21−24
−161%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
+368%
|
19
−368%
|
Grand Theft Auto V | 182
+379%
|
38
−379%
|
Metro Exodus | 76
+105%
|
37
−105%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 152
+149%
|
61
−149%
|
Valorant | 300−350
+91.3%
|
170−180
−91.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 136
+202%
|
45−50
−202%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
+187%
|
30−35
−187%
|
Cyberpunk 2077 | 50
+138%
|
21
−138%
|
Dota 2 | 211
+134%
|
90−95
−134%
|
Far Cry 5 | 109
+132%
|
47
−132%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
+209%
|
56
−209%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+191%
|
30−35
−191%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+132%
|
30−35
−132%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 Ti และ Arc A580 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 108% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 157% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 191% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 379%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ Arc A580 เร็วกว่า 5%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เหนือกว่าใน 58การทดสอบ (97%)
- Arc A580 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 60.40 | 26.74 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 10 ตุลาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 175 วัตต์ |
RTX 3080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 125.9% และ
ในทางกลับกัน Arc A580 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 100%
GeForce RTX 3080 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ