Radeon RX 9070 XT เทียบกับ Arc A770
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A770 และ Radeon RX 9070 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 9070 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A770 อย่างมหาศาลถึง 102% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 184 | 31 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 94 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 49.89 | 61.29 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.63 | 15.89 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 12 ตุลาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $329 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 9070 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า Arc A770 อยู่ 23%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 4096 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2100 MHz | 1660 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2400 MHz | 2970 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 225 Watt | 304 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 614.4 | 760.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 19.66 TFLOPS | 48.66 TFLOPS |
ROPs | 128 | 128 |
TMUs | 256 | 256 |
Tensor Cores | 512 | 128 |
Ray Tracing Cores | 32 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2518 MHz |
512.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 107
−100%
| 214
+100%
|
1440p | 63
−100%
| 126
+100%
|
4K | 39
−105%
| 80
+105%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.07
−9.8%
| 2.80
+9.8%
|
1440p | 5.22
−9.8%
| 4.75
+9.8%
|
4K | 8.44
−12.7%
| 7.49
+12.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 317
+2.9%
|
300−350
−2.9%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−108%
|
160−170
+108%
|
Sons of the Forest | 70
−72.9%
|
120−130
+72.9%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 110−120
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
Counter-Strike 2 | 270
−14.1%
|
300−350
+14.1%
|
Cyberpunk 2077 | 70
−131%
|
160−170
+131%
|
Far Cry 5 | 117
−153%
|
296
+153%
|
Fortnite | 140−150
−108%
|
300−350
+108%
|
Forza Horizon 4 | 33
−673%
|
250−260
+673%
|
Forza Horizon 5 | 139
−37.4%
|
190−200
+37.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−36.7%
|
170−180
+36.7%
|
Sons of the Forest | 55
−120%
|
120−130
+120%
|
Valorant | 190−200
−82.9%
|
350−400
+82.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 110−120
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
Counter-Strike 2 | 143
−115%
|
300−350
+115%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−1.1%
|
270−280
+1.1%
|
Cyberpunk 2077 | 61
−166%
|
160−170
+166%
|
Far Cry 5 | 109
−161%
|
285
+161%
|
Fortnite | 140−150
−108%
|
300−350
+108%
|
Forza Horizon 4 | 31
−723%
|
250−260
+723%
|
Forza Horizon 5 | 127
−50.4%
|
190−200
+50.4%
|
Grand Theft Auto V | 105
−60%
|
160−170
+60%
|
Metro Exodus | 113
−46%
|
160−170
+46%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−36.7%
|
170−180
+36.7%
|
Sons of the Forest | 54
−124%
|
120−130
+124%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 196
−154%
|
497
+154%
|
Valorant | 190−200
−82.9%
|
350−400
+82.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
Cyberpunk 2077 | 58
−179%
|
160−170
+179%
|
Far Cry 5 | 104
−160%
|
270
+160%
|
Forza Horizon 4 | 23
−1009%
|
250−260
+1009%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−36.7%
|
170−180
+36.7%
|
Sons of the Forest | 54
−124%
|
120−130
+124%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
−283%
|
276
+283%
|
Valorant | 190−200
−82.9%
|
350−400
+82.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−108%
|
300−350
+108%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 90
−118%
|
190−200
+118%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−126%
|
500−550
+126%
|
Grand Theft Auto V | 45
−202%
|
130−140
+202%
|
Metro Exodus | 71
−53.5%
|
100−110
+53.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−91.5%
|
400−450
+91.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 85−90
−90.6%
|
160−170
+90.6%
|
Cyberpunk 2077 | 45
−104%
|
90−95
+104%
|
Far Cry 5 | 82
−217%
|
260
+217%
|
Forza Horizon 4 | 15
−1360%
|
210−220
+1360%
|
Sons of the Forest | 40
−155%
|
100−110
+155%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60
−253%
|
212
+253%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−86.4%
|
150−160
+86.4%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 28
−214%
|
85−90
+214%
|
Grand Theft Auto V | 48
−225%
|
150−160
+225%
|
Metro Exodus | 47
−51.1%
|
70−75
+51.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 73
−138%
|
174
+138%
|
Valorant | 190−200
−70.1%
|
300−350
+70.1%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−138%
|
110−120
+138%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−151%
|
85−90
+151%
|
Cyberpunk 2077 | 26
−69.2%
|
40−45
+69.2%
|
Far Cry 5 | 49
−210%
|
152
+210%
|
Forza Horizon 4 | 8
−2038%
|
170−180
+2038%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−146%
|
95−100
+146%
|
Sons of the Forest | 23
−213%
|
70−75
+213%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−103%
|
75−80
+103%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A770 และ RX 9070 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 XT เร็วกว่า 100% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 XT เร็วกว่า 100% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 XT เร็วกว่า 105% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ Arc A770 เร็วกว่า 3%
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 9070 XT เร็วกว่า 2038%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Arc A770 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 9070 XT เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.70 | 61.99 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 ตุลาคม 2022 | 6 มีนาคม 2025 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 225 วัตต์ | 304 วัตต์ |
Arc A770 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 35.1%
ในทางกลับกัน RX 9070 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 101.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
Radeon RX 9070 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A770 ในการทดสอบประสิทธิภาพ