GeForce RTX 5060 เทียบกับ UHD Graphics 770
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ UHD Graphics 770 และ GeForce RTX 5060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5060 มีประสิทธิภาพดีกว่า UHD Graphics 770 อย่างมหาศาลถึง 802% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 621 | 63 |
จัดอันดับตามความนิยม | 81 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 28.34 | 26.44 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.2 (2022−2023) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Raptor Lake GT1 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 27 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 256 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 300 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1650 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 10 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 26.40 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.8448 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 8 | 48 |
TMUs | 16 | 120 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 120 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | Ring Bus | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 241 mm |
ความกว้าง | IGP | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1750 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Motherboard Dependent | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
Unigine Heaven 3.0
นี่คือการทดสอบ DirectX 11 เก่า ที่ใช้ Unigine ซึ่งเป็นเอนจินเกม 3 มิติจากบริษัทรัสเซียชื่อเดียวกัน แสดงฉากเมืองแฟนตาซียุคกลางที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าหลายเกาะ เวอร์ชัน 3.0 เปิดตัวในปี 2012 และในปี 2013 ถูกแทนที่ด้วย Heaven 4.0 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย รวมถึงการใช้เวอร์ชันใหม่ของ Unigine
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 18
−756%
| 154
+756%
|
1440p | 8−9
−875%
| 78
+875%
|
4K | 13
−300%
| 52
+300%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 1.94 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 3.83 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 5.75 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 52
−423%
|
270−280
+423%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−1036%
|
120−130
+1036%
|
Dead Island 2 | 18−20
−1153%
|
230−240
+1153%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 24−27
−546%
|
150−160
+546%
|
Counter-Strike 2 | 34
−700%
|
270−280
+700%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−1150%
|
120−130
+1150%
|
Dead Island 2 | 18−20
−1153%
|
230−240
+1153%
|
Far Cry 5 | 17
−1371%
|
250
+1371%
|
Fortnite | 35−40
−546%
|
220−230
+546%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−662%
|
190−200
+662%
|
Forza Horizon 5 | 18
−772%
|
150−160
+772%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−700%
|
170−180
+700%
|
Valorant | 65−70
−322%
|
280−290
+322%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 24−27
−546%
|
150−160
+546%
|
Counter-Strike 2 | 9
−2922%
|
270−280
+2922%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 95−100
−190%
|
270−280
+190%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−942%
|
120−130
+942%
|
Dead Island 2 | 18−20
−1153%
|
230−240
+1153%
|
Dota 2 | 43
−714%
|
350−400
+714%
|
Far Cry 5 | 16
−1325%
|
228
+1325%
|
Fortnite | 35−40
−546%
|
220−230
+546%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−662%
|
190−200
+662%
|
Forza Horizon 5 | 16
−881%
|
150−160
+881%
|
Grand Theft Auto V | 9
−1589%
|
150−160
+1589%
|
Metro Exodus | 5
−2480%
|
120−130
+2480%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−700%
|
170−180
+700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18
−1489%
|
286
+1489%
|
Valorant | 65−70
−322%
|
280−290
+322%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−546%
|
150−160
+546%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−942%
|
120−130
+942%
|
Dead Island 2 | 18−20
−1153%
|
230−240
+1153%
|
Dota 2 | 40
−775%
|
350−400
+775%
|
Far Cry 5 | 14
−1421%
|
213
+1421%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−662%
|
190−200
+662%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−700%
|
170−180
+700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9
−1489%
|
143
+1489%
|
Valorant | 65−70
−322%
|
280−290
+322%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−546%
|
220−230
+546%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
−1511%
|
140−150
+1511%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 40−45
−741%
|
350−400
+741%
|
Grand Theft Auto V | 7−8
−1457%
|
100−110
+1457%
|
Metro Exodus | 5−6
−1520%
|
80−85
+1520%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−386%
|
170−180
+386%
|
Valorant | 65−70
−391%
|
300−350
+391%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 8−9
−1475%
|
120−130
+1475%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−1240%
|
65−70
+1240%
|
Dead Island 2 | 10−11
−1120%
|
120−130
+1120%
|
Far Cry 5 | 10−12
−1218%
|
145
+1218%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−1043%
|
160−170
+1043%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
−1225%
|
106
+1225%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−1100%
|
140−150
+1100%
|
4K
High Preset
Dead Island 2 | 7−8
−757%
|
60−65
+757%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−618%
|
120−130
+618%
|
Metro Exodus | 1−2
−5000%
|
50−55
+5000%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 3−4
−2933%
|
91
+2933%
|
Valorant | 27−30
−934%
|
300−310
+934%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 4−5
−2050%
|
85−90
+2050%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−1450%
|
30−35
+1450%
|
Dead Island 2 | 7−8
−657%
|
50−55
+657%
|
Dota 2 | 14
−757%
|
120−130
+757%
|
Far Cry 5 | 5−6
−1400%
|
75
+1400%
|
Forza Horizon 4 | 8−9
−1313%
|
110−120
+1313%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 6−7
−1333%
|
85−90
+1333%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 6−7
−1167%
|
75−80
+1167%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 65−70
+0%
|
65−70
+0%
|
4K
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 65−70
+0%
|
65−70
+0%
|
นี่คือวิธีที่ UHD Graphics 770 และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 เร็วกว่า 756% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5060 เร็วกว่า 875% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5060 เร็วกว่า 300% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 5000%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 5.96 | 53.76 |
ความใหม่ล่าสุด | 27 กันยายน 2022 | 19 พฤษภาคม 2025 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 10 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 วัตต์ | 145 วัตต์ |
UHD Graphics 770 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 866.7%
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 802% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
GeForce RTX 5060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า UHD Graphics 770 ในการทดสอบประสิทธิภาพ