Radeon RX Vega 9 เทียบกับ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000)
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) และ Radeon RX Vega 9 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 9 อย่างน่าประทับใจ 60% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 497 | 615 |
จัดอันดับตามความนิยม | 31 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 41.02 | 25.57 |
สถาปัตยกรรม | Vega (2017−2020) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Vega | Vega Raven Ridge |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 26 ตุลาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 512 | 576 |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2100 MHz | 1300 MHz |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 15 Watt |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12_1 | 12_1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 22
+22.2%
| 18
−22.2%
|
1440p | 17
+70%
| 10−12
−70%
|
4K | 10
+66.7%
| 6−7
−66.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 24
+84.6%
|
12−14
−84.6%
|
Counter-Strike 2 | 13
+8.3%
|
12−14
−8.3%
|
Cyberpunk 2077 | 18
+63.6%
|
10−12
−63.6%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 19
+46.2%
|
12−14
−46.2%
|
Battlefield 5 | 39
+77.3%
|
21−24
−77.3%
|
Counter-Strike 2 | 9
−33.3%
|
12−14
+33.3%
|
Cyberpunk 2077 | 13
+18.2%
|
10−12
−18.2%
|
Far Cry 5 | 21
+40%
|
14−16
−40%
|
Fortnite | 47
+114%
|
22
−114%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+54.2%
|
24−27
−54.2%
|
Forza Horizon 5 | 21
+75%
|
12−14
−75%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
+50%
|
20−22
−50%
|
Valorant | 80−85
+33.3%
|
60−65
−33.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 11
−18.2%
|
12−14
+18.2%
|
Battlefield 5 | 33
+50%
|
21−24
−50%
|
Counter-Strike 2 | 9
−33.3%
|
12−14
+33.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 48
−85.4%
|
85−90
+85.4%
|
Cyberpunk 2077 | 9
−22.2%
|
10−12
+22.2%
|
Dota 2 | 51
+15.9%
|
40−45
−15.9%
|
Far Cry 5 | 20
+33.3%
|
14−16
−33.3%
|
Fortnite | 31
+93.8%
|
16
−93.8%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+54.2%
|
24−27
−54.2%
|
Forza Horizon 5 | 13
+8.3%
|
12−14
−8.3%
|
Grand Theft Auto V | 19
+5.6%
|
18−20
−5.6%
|
Metro Exodus | 16
+60%
|
10−11
−60%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
+50%
|
20−22
−50%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21
+61.5%
|
13
−61.5%
|
Valorant | 80−85
+33.3%
|
60−65
−33.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30
+36.4%
|
21−24
−36.4%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+33.3%
|
12−14
−33.3%
|
Cyberpunk 2077 | 9
−22.2%
|
10−12
+22.2%
|
Dota 2 | 48
+9.1%
|
40−45
−9.1%
|
Far Cry 5 | 19
+26.7%
|
14−16
−26.7%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+54.2%
|
24−27
−54.2%
|
Forza Horizon 5 | 14
+16.7%
|
12−14
−16.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
+50%
|
20−22
−50%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14
+75%
|
8
−75%
|
Valorant | 37
−70.3%
|
60−65
+70.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 18
+100%
|
9
−100%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 21
−90.5%
|
40−45
+90.5%
|
Grand Theft Auto V | 9
+50%
|
6−7
−50%
|
Metro Exodus | 10
+150%
|
4−5
−150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 22
−59.1%
|
35−40
+59.1%
|
Valorant | 95−100
+61%
|
55−60
−61%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21
+250%
|
6−7
−250%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
+57.1%
|
7−8
−57.1%
|
Cyberpunk 2077 | 5
+25%
|
4−5
−25%
|
Far Cry 5 | 16
+60%
|
10−11
−60%
|
Forza Horizon 4 | 20−22
+66.7%
|
12−14
−66.7%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+75%
|
8−9
−75%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
+62.5%
|
8−9
−62.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 16−18
+70%
|
10−11
−70%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 7−8
+75%
|
4−5
−75%
|
Counter-Strike 2 | 3−4 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 10
−70%
|
16−18
+70%
|
Metro Exodus | 6
+100%
|
3−4
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Valorant | 40−45
+65.4%
|
24−27
−65.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
+200%
|
3−4
−200%
|
Counter-Strike 2 | 3−4 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 3−4
+50%
|
2−3
−50%
|
Dota 2 | 18
+0%
|
18−20
+0%
|
Far Cry 5 | 8
+60%
|
5−6
−60%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
+100%
|
7−8
−100%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
+100%
|
3−4
−100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
+60%
|
5−6
−60%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
+60%
|
5−6
−60%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) และ RX Vega 9 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 22% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 70% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 67% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 300%
- ในเกม Counter-Strike: Global Offensive ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 9 เร็วกว่า 90%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (83%)
- RX Vega 9 เหนือกว่าใน 10การทดสอบ (16%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 8.95 | 5.58 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 มกราคม 2020 | 26 ตุลาคม 2017 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 14 nm |
RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 60.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 9 ในการทดสอบประสิทธิภาพ