GeForce RTX 5070 Ti Mobile เทียบกับ Radeon RX Vega 3
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 3 และ GeForce RTX 5070 Ti Mobile โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 Ti Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 3 อย่างมหาศาลถึง 1906% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 845 | 51 |
| จัดอันดับตามความนิยม | 96 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.08 | 70.56 |
| สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | Picasso | GB205 |
| ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 6 มกราคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | มีนาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 192 | 5888 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 300 MHz | 847 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1001 MHz | 1447 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,940 million | 31,100 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 60 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 12.01 | 266.2 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.3844 TFLOPS | 17.04 TFLOPS |
| ROPs | 4 | 80 |
| TMUs | 12 | 184 |
| Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
| Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
| L1 Cache | ไม่มีข้อมูล | 5.8 เอ็มบี |
| L2 Cache | ไม่มีข้อมูล | 48 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
| อินเทอร์เฟซ | IGP | PCIe 5.0 x16 |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 12 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 192 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1750 MHz |
| ไม่มีข้อมูล | 672.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 2.0 | 3.0 |
| Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
| CUDA | - | 12.0 |
| DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 12
−1117%
| 146
+1117%
|
| 1440p | 4−5
−2125%
| 89
+2125%
|
| 4K | 3−4
−2033%
| 64
+2033%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 29
−872%
|
280−290
+872%
|
| Cyberpunk 2077 | 6−7
−2183%
|
130−140
+2183%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 7
−2200%
|
160−170
+2200%
|
| Counter-Strike 2 | 22
−1336%
|
316
+1336%
|
| Cyberpunk 2077 | 6−7
−2183%
|
130−140
+2183%
|
| Escape from Tarkov | 9
−1244%
|
120−130
+1244%
|
| Far Cry 5 | 5
−3000%
|
155
+3000%
|
| Fortnite | 14
−1686%
|
250−260
+1686%
|
| Forza Horizon 4 | 14−16
−1436%
|
210−220
+1436%
|
| Forza Horizon 5 | 9
−1800%
|
170−180
+1800%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−1238%
|
170−180
+1238%
|
| Valorant | 45−50
−578%
|
300−350
+578%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 9−10
−1689%
|
160−170
+1689%
|
| Counter-Strike 2 | 5
−4780%
|
244
+4780%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 23
−1109%
|
270−280
+1109%
|
| Cyberpunk 2077 | 6−7
−2183%
|
130−140
+2183%
|
| Dota 2 | 21
−1805%
|
400−450
+1805%
|
| Escape from Tarkov | 10−11
−1110%
|
120−130
+1110%
|
| Far Cry 5 | 8−9
−1713%
|
145
+1713%
|
| Fortnite | 14−16
−1686%
|
250−260
+1686%
|
| Forza Horizon 4 | 14−16
−1436%
|
210−220
+1436%
|
| Forza Horizon 5 | 7−8
−2343%
|
170−180
+2343%
|
| Grand Theft Auto V | 9
−1744%
|
166
+1744%
|
| Metro Exodus | 2
−6900%
|
140−150
+6900%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−1238%
|
170−180
+1238%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 6
−5583%
|
341
+5583%
|
| Valorant | 45−50
−578%
|
300−350
+578%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 9−10
−1689%
|
160−170
+1689%
|
| Cyberpunk 2077 | 6−7
−2183%
|
130−140
+2183%
|
| Dota 2 | 19
−1742%
|
350−400
+1742%
|
| Escape from Tarkov | 10−11
−1110%
|
120−130
+1110%
|
| Far Cry 5 | 8−9
−1675%
|
142
+1675%
|
| Forza Horizon 4 | 14−16
−1436%
|
210−220
+1436%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−1238%
|
170−180
+1238%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 4
−4025%
|
165
+4025%
|
| Valorant | 45−50
−1900%
|
900−950
+1900%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 14−16
−1686%
|
250−260
+1686%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 6−7
−2800%
|
174
+2800%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 21−24
−1862%
|
400−450
+1862%
|
| Metro Exodus | 1−2
−8800%
|
85−90
+8800%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−1900%
|
500−550
+1900%
|
| Valorant | 24−27
−1308%
|
350−400
+1308%
|
1440p
Ultra
| Cyberpunk 2077 | 2−3
−3600%
|
70−75
+3600%
|
| Escape from Tarkov | 6−7
−1883%
|
110−120
+1883%
|
| Far Cry 5 | 5−6
−2780%
|
144
+2780%
|
| Forza Horizon 4 | 7−8
−2443%
|
170−180
+2443%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 4−5
−3150%
|
130
+3150%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 5−6
−2920%
|
150−160
+2920%
|
4K
High
| Grand Theft Auto V | 14−16
−727%
|
124
+727%
|
| Valorant | 14−16
−2136%
|
300−350
+2136%
|
4K
Ultra
| Cyberpunk 2077 | 0−1 | 35−40 |
| Dota 2 | 8−9
−1900%
|
160−170
+1900%
|
| Escape from Tarkov | 1−2
−7700%
|
75−80
+7700%
|
| Far Cry 5 | 1−2
−8300%
|
80−85
+8300%
|
| Forza Horizon 4 | 2−3
−6300%
|
120−130
+6300%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 3−4
−3100%
|
95−100
+3100%
|
4K
Epic
| Fortnite | 3−4
−2533%
|
75−80
+2533%
|
1440p
High
| Grand Theft Auto V | 141
+0%
|
141
+0%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 70−75
+0%
|
70−75
+0%
|
| Metro Exodus | 55−60
+0%
|
55−60
+0%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
+0%
|
100−110
+0%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 3 และ RTX 5070 Ti Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 1117% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 2125% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 2033% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 8800%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti Mobile เหนือกว่าใน 51การทดสอบ (89%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (11%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 2.75 | 55.16 |
| ความใหม่ล่าสุด | 6 มกราคม 2019 | ใน มีนาคม 2025 |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 15 วัตต์ | 60 วัตต์ |
RX Vega 3 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX 5070 Ti Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1905.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 5070 Ti Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 3 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
