GeForce RTX 3080 Ti เทียบกับ Radeon RX Vega 11
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 11 และ GeForce RTX 3080 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 11 อย่างมหาศาลถึง 1179% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 625 | 26 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 22.73 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.70 | 13.69 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Raven | GA102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 พฤษภาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 704 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 300 MHz | 1365 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1251 MHz | 1665 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,940 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 35 Watt | 350 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 55.04 | 532.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.761 TFLOPS | 34.1 TFLOPS |
ROPs | 8 | 112 |
TMUs | 44 | 320 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | IGP | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 285 mm |
ความกว้าง | IGP | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1188 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 912.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Motherboard Dependent | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 (6.4) | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.2 |
CUDA | - | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 28
−668%
| 215
+668%
|
1440p | 6
−2300%
| 144
+2300%
|
4K | 12
−700%
| 96
+700%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 5.58 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 8.33 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 12.49 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 12−14
−1575%
|
200−210
+1575%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−1327%
|
300−350
+1327%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−2090%
|
219
+2090%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 12−14
−1575%
|
200−210
+1575%
|
Battlefield 5 | 31
−461%
|
170−180
+461%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−1327%
|
300−350
+1327%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−1740%
|
184
+1740%
|
Far Cry 5 | 19
−995%
|
208
+995%
|
Fortnite | 86
−251%
|
300−350
+251%
|
Forza Horizon 4 | 38
−574%
|
250−260
+574%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−1438%
|
200
+1438%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
−785%
|
170−180
+785%
|
Valorant | 60−65
−490%
|
350−400
+490%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−1575%
|
200−210
+1575%
|
Battlefield 5 | 26
−569%
|
170−180
+569%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−1327%
|
300−350
+1327%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 85−90
−220%
|
270−280
+220%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−1500%
|
160
+1500%
|
Dota 2 | 46
−409%
|
234
+409%
|
Far Cry 5 | 18
−1000%
|
198
+1000%
|
Fortnite | 31
−874%
|
300−350
+874%
|
Forza Horizon 4 | 35
−631%
|
250−260
+631%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−1346%
|
188
+1346%
|
Grand Theft Auto V | 17
−924%
|
174
+924%
|
Metro Exodus | 9
−1811%
|
172
+1811%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
−785%
|
170−180
+785%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14
−2557%
|
372
+2557%
|
Valorant | 60−65
−490%
|
350−400
+490%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 25
−684%
|
196
+684%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−1360%
|
146
+1360%
|
Dota 2 | 42
−417%
|
217
+417%
|
Far Cry 5 | 17
−994%
|
186
+994%
|
Forza Horizon 4 | 29
−783%
|
250−260
+783%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
−785%
|
170−180
+785%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10
−1710%
|
181
+1710%
|
Valorant | 60−65
−526%
|
388
+526%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 30−33
−907%
|
300−350
+907%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 8−9
−2375%
|
190−200
+2375%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 35−40
−1190%
|
500−550
+1190%
|
Grand Theft Auto V | 6−7
−2450%
|
153
+2450%
|
Metro Exodus | 4−5
−2750%
|
114
+2750%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−400%
|
170−180
+400%
|
Valorant | 55−60
−686%
|
400−450
+686%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 6−7
−3100%
|
192
+3100%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−2375%
|
99
+2375%
|
Far Cry 5 | 10−11
−1660%
|
176
+1660%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−1742%
|
220−230
+1742%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
−1800%
|
150−160
+1800%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 10−11
−1410%
|
150−160
+1410%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 4−5
−1400%
|
60−65
+1400%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−971%
|
182
+971%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 1−2
−15100%
|
152
+15100%
|
Valorant | 24−27
−1173%
|
300−350
+1173%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 8
−1600%
|
136
+1600%
|
Cyberpunk 2077 | 1−2
−4900%
|
50
+4900%
|
Dota 2 | 17
−1141%
|
211
+1141%
|
Far Cry 5 | 5−6
−2080%
|
109
+2080%
|
Forza Horizon 4 | 12
−1342%
|
170−180
+1342%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 5−6
−1820%
|
95−100
+1820%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 5−6
−1480%
|
75−80
+1480%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
+0%
|
85−90
+0%
|
Metro Exodus | 76
+0%
|
76
+0%
|
4K
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
+0%
|
85−90
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 11 และ RTX 3080 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 668% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 2300% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 700% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 15100%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 4.72 | 60.38 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 พฤษภาคม 2018 | 31 พฤษภาคม 2021 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 35 วัตต์ | 350 วัตต์ |
RX Vega 11 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 900%
ในทางกลับกัน RTX 3080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1179.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 75%
GeForce RTX 3080 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 11 ในการทดสอบประสิทธิภาพ