Arc A770 เทียบกับ Radeon RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 และ Arc A770 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
Arc A770 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 580 อย่างน่าสนใจ 49% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 251 | 154 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.58 | 55.87 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.56 | 10.47 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 12 ตุลาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $329 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
Arc A770 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 580 อยู่ 218%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 4096 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 2100 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 2400 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 225 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 614.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 19.66 TFLOPS |
ROPs | 32 | 128 |
TMUs | 144 | 256 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 512 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2000 MHz |
256.0 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 97
−14.4%
| 111
+14.4%
|
1440p | 43
−44.2%
| 62
+44.2%
|
4K | 37
−8.1%
| 40
+8.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.36
+25.5%
| 2.96
−25.5%
|
1440p | 5.33
−0.4%
| 5.31
+0.4%
|
4K | 6.19
+32.9%
| 8.23
−32.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
−209%
|
179
+209%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−183%
|
116
+183%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−69.6%
|
78
+69.6%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
−128%
|
132
+128%
|
Battlefield 5 | 124
+6%
|
110−120
−6%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−141%
|
99
+141%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−52.2%
|
70
+52.2%
|
Far Cry 5 | 83
−41%
|
117
+41%
|
Fortnite | 153
+6.3%
|
140−150
−6.3%
|
Forza Horizon 4 | 108
+227%
|
33
−227%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−128%
|
139
+128%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
−49.4%
|
120−130
+49.4%
|
Valorant | 150−160
−28.6%
|
190−200
+28.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
−70.7%
|
99
+70.7%
|
Battlefield 5 | 102
−14.7%
|
110−120
+14.7%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−115%
|
88
+115%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−12.7%
|
270−280
+12.7%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−32.6%
|
61
+32.6%
|
Dota 2 | 110−120
−46.6%
|
170−180
+46.6%
|
Far Cry 5 | 76
−43.4%
|
109
+43.4%
|
Fortnite | 106
−35.8%
|
140−150
+35.8%
|
Forza Horizon 4 | 101
+226%
|
31
−226%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−108%
|
127
+108%
|
Grand Theft Auto V | 77
−36.4%
|
105
+36.4%
|
Metro Exodus | 48
−135%
|
113
+135%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
−81.4%
|
120−130
+81.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
−172%
|
196
+172%
|
Valorant | 150−160
−28.6%
|
190−200
+28.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 93
−25.8%
|
110−120
+25.8%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−102%
|
83
+102%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−26.1%
|
58
+26.1%
|
Dota 2 | 110−120
−46.6%
|
170−180
+46.6%
|
Far Cry 5 | 71
−46.5%
|
104
+46.5%
|
Forza Horizon 4 | 82
+257%
|
23
−257%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−47.5%
|
90−95
+47.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
−159%
|
120−130
+159%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−63.6%
|
72
+63.6%
|
Valorant | 150−160
−28.6%
|
190−200
+28.6%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 80
−80%
|
140−150
+80%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
−22.7%
|
27−30
+22.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
−42.2%
|
210−220
+42.2%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−18.4%
|
45
+18.4%
|
Metro Exodus | 28
−154%
|
71
+154%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Valorant | 190−200
−21.2%
|
230−240
+21.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−39.3%
|
85−90
+39.3%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−114%
|
45
+114%
|
Far Cry 5 | 45−50
−67.3%
|
82
+67.3%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+267%
|
15
−267%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−41%
|
55−60
+41%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−71.4%
|
60
+71.4%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−58.8%
|
80−85
+58.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
−47.1%
|
24−27
+47.1%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+0%
|
10
+0%
|
Grand Theft Auto V | 57
+18.8%
|
48
−18.8%
|
Metro Exodus | 18
−161%
|
47
+161%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
−170%
|
73
+170%
|
Valorant | 120−130
−54.8%
|
190−200
+54.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
−35.1%
|
50−55
+35.1%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−50%
|
15
+50%
|
Cyberpunk 2077 | 9−10
−189%
|
26
+189%
|
Dota 2 | 70−75
−38.9%
|
100−105
+38.9%
|
Far Cry 5 | 26
−88.5%
|
49
+88.5%
|
Forza Horizon 4 | 41
+413%
|
8
−413%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
−35%
|
27−30
+35%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18
−111%
|
35−40
+111%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
−65.2%
|
35−40
+65.2%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ Arc A770 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Arc A770 เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1080p
- Arc A770 เร็วกว่า 44% ในความละเอียด 1440p
- Arc A770 เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 413%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ Arc A770 เร็วกว่า 209%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 8การทดสอบ (13%)
- Arc A770 เหนือกว่าใน 52การทดสอบ (85%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.71 | 33.81 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 12 ตุลาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 225 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 21.6%
ในทางกลับกัน Arc A770 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 48.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
Arc A770 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ