Radeon RX 6800 เทียบกับ RX 570
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 570 และ Radeon RX 6800 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 6800 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 570 อย่างมหาศาลถึง 217% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 315 | 46 |
จัดอันดับตามความนิยม | 16 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 15.00 | 50.26 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.39 | 15.83 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Navi 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 28 ตุลาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $169 | $579 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6800 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 570 อยู่ 235%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1168 MHz | 1700 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1244 MHz | 2105 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 26,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 250 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 159.2 | 505.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.095 TFLOPS | 16.17 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 128 | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2000 MHz |
224.0 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 2x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.1 |
Vulkan | + | 1.2 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 85
−108%
| 177
+108%
|
1440p | 48
−106%
| 99
+106%
|
4K | 30
−103%
| 61
+103%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.99
+64.5%
| 3.27
−64.5%
|
1440p | 3.52
+66.1%
| 5.85
−66.1%
|
4K | 5.63
+68.5%
| 9.49
−68.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−495%
|
262
+495%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−500%
|
186
+500%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−275%
|
135
+275%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−350%
|
198
+350%
|
Battlefield 5 | 88
−78.4%
|
150−160
+78.4%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−377%
|
148
+377%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−219%
|
115
+219%
|
Far Cry 5 | 77
−156%
|
197
+156%
|
Fortnite | 238
+1.7%
|
230−240
−1.7%
|
Forza Horizon 4 | 100
−105%
|
200−210
+105%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−394%
|
232
+394%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
−84.4%
|
170−180
+84.4%
|
Valorant | 130−140
−119%
|
290−300
+119%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−173%
|
120
+173%
|
Battlefield 5 | 75
−109%
|
150−160
+109%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−281%
|
118
+281%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−28.7%
|
270−280
+28.7%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−189%
|
104
+189%
|
Dota 2 | 100−110
−43.6%
|
145
+43.6%
|
Far Cry 5 | 70
−166%
|
186
+166%
|
Fortnite | 95
−146%
|
230−240
+146%
|
Forza Horizon 4 | 94
−118%
|
200−210
+118%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−347%
|
210
+347%
|
Grand Theft Auto V | 73
−118%
|
159
+118%
|
Metro Exodus | 43
−242%
|
147
+242%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 87
−103%
|
170−180
+103%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
−249%
|
269
+249%
|
Valorant | 130−140
−119%
|
290−300
+119%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
−131%
|
150−160
+131%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−329%
|
130−140
+329%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−175%
|
99
+175%
|
Dota 2 | 100−110
−26.7%
|
128
+26.7%
|
Far Cry 5 | 65
−168%
|
174
+168%
|
Forza Horizon 4 | 75
−173%
|
200−210
+173%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−198%
|
140−150
+198%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
−157%
|
170−180
+157%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−253%
|
152
+253%
|
Valorant | 130−140
−119%
|
290−300
+119%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 72
−225%
|
230−240
+225%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
−132%
|
40−45
+132%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−205%
|
350−400
+205%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−346%
|
125
+346%
|
Metro Exodus | 25
−256%
|
89
+256%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−6.7%
|
170−180
+6.7%
|
Valorant | 160−170
−95.8%
|
300−350
+95.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 52
−150%
|
130−140
+150%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−363%
|
74
+363%
|
Far Cry 5 | 46
−254%
|
163
+254%
|
Forza Horizon 4 | 59
−183%
|
160−170
+183%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−206%
|
95−100
+206%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−319%
|
110−120
+319%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45
−229%
|
140−150
+229%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−229%
|
45−50
+229%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−275%
|
30−33
+275%
|
Grand Theft Auto V | 30
−340%
|
132
+340%
|
Metro Exodus | 16
−244%
|
55
+244%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 28
−254%
|
99
+254%
|
Valorant | 95−100
−221%
|
300−350
+221%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 31
−190%
|
90−95
+190%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−75%
|
14
+75%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−386%
|
34
+386%
|
Dota 2 | 55−60
−72.9%
|
102
+72.9%
|
Far Cry 5 | 24
−279%
|
91
+279%
|
Forza Horizon 4 | 39
−203%
|
110−120
+203%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−200%
|
45−50
+200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27
−237%
|
90−95
+237%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
−239%
|
75−80
+239%
|
นี่คือวิธีที่ RX 570 และ RX 6800 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 6800 เร็วกว่า 108% ในความละเอียด 1080p
- RX 6800 เร็วกว่า 106% ในความละเอียด 1440p
- RX 6800 เร็วกว่า 103% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 570 เร็วกว่า 2%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 6800 เร็วกว่า 500%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 6800 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.89 | 56.77 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 28 ตุลาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 250 วัตต์ |
RX 570 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 108.3%
ในทางกลับกัน RX 6800 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 217.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
Radeon RX 6800 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 570 ในการทดสอบประสิทธิภาพ