GeForce RTX 3080 Ti เทียบกับ Radeon RX 5600M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5600M กับ GeForce RTX 3080 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5600M อย่างมหาศาลถึง 206% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 255 | 26 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 22.73 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.46 | 13.73 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 10 | GA102 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กรกฎาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1035 MHz | 1365 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1265 MHz | 1665 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 10,300 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 Watt | 350 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 182.2 | 532.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.829 TFLOPS | 34.1 TFLOPS |
ROPs | 64 | 112 |
TMUs | 144 | 320 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 285 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1188 MHz |
288.0 จีบี/s | 912.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.2 |
CUDA | - | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 85
−152%
| 214
+152%
|
1440p | 61
−136%
| 144
+136%
|
4K | 33
−191%
| 96
+191%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 5.60 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 8.33 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 12.49 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
−247%
|
200−210
+247%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−153%
|
300−350
+153%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−376%
|
219
+376%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
−247%
|
200−210
+247%
|
Battlefield 5 | 114
−52.6%
|
170−180
+52.6%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−153%
|
300−350
+153%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−300%
|
184
+300%
|
Far Cry 5 | 70−75
−189%
|
208
+189%
|
Fortnite | 110−120
−175%
|
300−350
+175%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−194%
|
250−260
+194%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
−194%
|
200
+194%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
Valorant | 150−160
−138%
|
350−400
+138%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
−247%
|
200−210
+247%
|
Battlefield 5 | 112
−55.4%
|
170−180
+55.4%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−153%
|
300−350
+153%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−13.9%
|
270−280
+13.9%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−248%
|
160
+248%
|
Dota 2 | 107
−119%
|
234
+119%
|
Far Cry 5 | 70−75
−175%
|
198
+175%
|
Fortnite | 110−120
−175%
|
300−350
+175%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−194%
|
250−260
+194%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
−176%
|
188
+176%
|
Grand Theft Auto V | 75−80
−120%
|
174
+120%
|
Metro Exodus | 59
−192%
|
172
+192%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 104
−258%
|
372
+258%
|
Valorant | 150−160
−138%
|
350−400
+138%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 106
−84.9%
|
196
+84.9%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−217%
|
146
+217%
|
Dota 2 | 104
−109%
|
217
+109%
|
Far Cry 5 | 80
−133%
|
186
+133%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−194%
|
250−260
+194%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−183%
|
181
+183%
|
Valorant | 115
−237%
|
388
+237%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−175%
|
300−350
+175%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 45−50
−333%
|
190−200
+333%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
−229%
|
500−550
+229%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−303%
|
153
+303%
|
Metro Exodus | 27−30
−307%
|
114
+307%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.2%
|
170−180
+1.2%
|
Valorant | 190−200
−134%
|
400−450
+134%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 82
−134%
|
192
+134%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−371%
|
99
+371%
|
Far Cry 5 | 45−50
−259%
|
176
+259%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−302%
|
220−230
+302%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−322%
|
150−160
+322%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−202%
|
150−160
+202%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
−253%
|
60−65
+253%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−345%
|
85−90
+345%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−367%
|
182
+367%
|
Metro Exodus | 18−20
−322%
|
76
+322%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−375%
|
152
+375%
|
Valorant | 120−130
−167%
|
300−350
+167%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 41
−232%
|
136
+232%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−345%
|
85−90
+345%
|
Cyberpunk 2077 | 9−10
−456%
|
50
+456%
|
Dota 2 | 70−75
−193%
|
211
+193%
|
Far Cry 5 | 24−27
−354%
|
109
+354%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−355%
|
170−180
+355%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−336%
|
95−100
+336%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 21−24
−243%
|
75−80
+243%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5600M และ RTX 3080 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 152% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 136% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 191% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 456%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3080 Ti เหนือกว่า RX 5600M ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 19.72 | 60.38 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กรกฎาคม 2020 | 31 พฤษภาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 วัตต์ | 350 วัตต์ |
RX 5600M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 133.3%
ในทางกลับกัน RTX 3080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 206.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 10 เดือนและ
GeForce RTX 3080 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5600M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 5600M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 3080 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป