Radeon RX 9070 XT เทียบกับ RX 5500 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5500 XT และ Radeon RX 9070 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 9070 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5500 XT อย่างมหาศาลถึง 199% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 257 | 28 |
จัดอันดับตามความนิยม | 85 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.63 | 61.33 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.39 | 15.87 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 12 ธันวาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $169 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 9070 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 5500 XT อยู่ 41%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 4096 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1607 MHz | 1660 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1845 MHz | 2970 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 130 Watt | 304 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 162.4 | 760.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.196 TFLOPS | 48.66 TFLOPS |
ROPs | 32 | 128 |
TMUs | 88 | 256 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 128 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 180 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 14000 MHz | 2518 MHz |
224.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 76
−175%
| 209
+175%
|
1440p | 42
−210%
| 130
+210%
|
4K | 24
−246%
| 83
+246%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.22
+28.9%
| 2.87
−28.9%
|
1440p | 4.02
+14.5%
| 4.61
−14.5%
|
4K | 7.04
+2.5%
| 7.22
−2.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 254
−23.6%
|
300−350
+23.6%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−112%
|
160−170
+112%
|
Hogwarts Legacy | 72
−272%
|
268
+272%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 74
−136%
|
170−180
+136%
|
Counter-Strike 2 | 196
−60.2%
|
300−350
+60.2%
|
Cyberpunk 2077 | 61
−170%
|
160−170
+170%
|
Far Cry 5 | 105
−182%
|
296
+182%
|
Fortnite | 110−120
−170%
|
300−350
+170%
|
Forza Horizon 4 | 78
−232%
|
250−260
+232%
|
Forza Horizon 5 | 109
−74.3%
|
190−200
+74.3%
|
Hogwarts Legacy | 56
−327%
|
239
+327%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−105%
|
170−180
+105%
|
Valorant | 150−160
−137%
|
350−400
+137%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 71
−146%
|
170−180
+146%
|
Counter-Strike 2 | 98
−220%
|
300−350
+220%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−11.6%
|
270−280
+11.6%
|
Cyberpunk 2077 | 45
−267%
|
160−170
+267%
|
Dota 2 | 149
−168%
|
400−450
+168%
|
Far Cry 5 | 96
−197%
|
285
+197%
|
Fortnite | 110−120
−170%
|
300−350
+170%
|
Forza Horizon 4 | 66
−292%
|
250−260
+292%
|
Forza Horizon 5 | 94
−102%
|
190−200
+102%
|
Grand Theft Auto V | 94
−78.7%
|
160−170
+78.7%
|
Hogwarts Legacy | 42
−360%
|
193
+360%
|
Metro Exodus | 52
−223%
|
160−170
+223%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−105%
|
170−180
+105%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 95
−423%
|
497
+423%
|
Valorant | 150−160
−137%
|
350−400
+137%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
−157%
|
170−180
+157%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−313%
|
160−170
+313%
|
Dota 2 | 143
−180%
|
400−450
+180%
|
Far Cry 5 | 89
−203%
|
270
+203%
|
Forza Horizon 4 | 56
−363%
|
250−260
+363%
|
Hogwarts Legacy | 31
−371%
|
146
+371%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−105%
|
170−180
+105%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 58
−376%
|
276
+376%
|
Valorant | 114
−226%
|
350−400
+226%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−170%
|
300−350
+170%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 55
−265%
|
200−210
+265%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
−224%
|
500−550
+224%
|
Grand Theft Auto V | 44
−211%
|
130−140
+211%
|
Metro Exodus | 31
−261%
|
110−120
+261%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Valorant | 190−200
−134%
|
450−500
+134%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
−202%
|
160−170
+202%
|
Cyberpunk 2077 | 20
−370%
|
90−95
+370%
|
Far Cry 5 | 60
−333%
|
260
+333%
|
Forza Horizon 4 | 41
−446%
|
220−230
+446%
|
Hogwarts Legacy | 23
−404%
|
116
+404%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−473%
|
212
+473%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−190%
|
150−160
+190%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 13
−592%
|
90−95
+592%
|
Grand Theft Auto V | 42
−279%
|
150−160
+279%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−250%
|
45−50
+250%
|
Metro Exodus | 19
−284%
|
70−75
+284%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
−461%
|
174
+461%
|
Valorant | 120−130
−159%
|
300−350
+159%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35
−249%
|
120−130
+249%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−329%
|
90−95
+329%
|
Cyberpunk 2077 | 8
−463%
|
45−50
+463%
|
Dota 2 | 78
−195%
|
230−240
+195%
|
Far Cry 5 | 30
−407%
|
152
+407%
|
Forza Horizon 4 | 21
−738%
|
170−180
+738%
|
Hogwarts Legacy | 12
−467%
|
68
+467%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−317%
|
95−100
+317%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−229%
|
75−80
+229%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5500 XT และ RX 9070 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 XT เร็วกว่า 175% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 XT เร็วกว่า 210% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 XT เร็วกว่า 246% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 9070 XT เร็วกว่า 738%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 9070 XT เหนือกว่า RX 5500 XT ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 21.60 | 64.68 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 ธันวาคม 2019 | 6 มีนาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 130 วัตต์ | 304 วัตต์ |
RX 5500 XT มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 133.8%
ในทางกลับกัน RX 9070 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 199.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
Radeon RX 9070 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5500 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ