GeForce MX150 เทียบกับ Radeon RX 470
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 470 กับ GeForce MX150 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 470 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX150 อย่างมหาศาลถึง 257% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 272 | 600 |
จัดอันดับตามความนิยม | 42 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.78 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.08 | 40.57 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Ellesmere | GP108 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 17 พฤษภาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $179 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 926 MHz | 937 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1206 MHz | 1038 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 1,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 10 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 154.4 | 24.91 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.94 TFLOPS | 0.7972 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 128 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1650 MHz | 1253 MHz |
211.2 จีบี/s | 40.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
+146%
| 28
−146%
|
1440p | 38
+26.7%
| 30
−26.7%
|
4K | 37
+94.7%
| 19
−94.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.59 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.71 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 4.84 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
+308%
|
12−14
−308%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+208%
|
12−14
−208%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+282%
|
10−12
−282%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
+308%
|
12−14
−308%
|
Battlefield 5 | 80−85
+108%
|
39
−108%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+208%
|
12−14
−208%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+282%
|
11
−282%
|
Far Cry 5 | 65−70
+294%
|
17
−294%
|
Fortnite | 100−110
+74.6%
|
59
−74.6%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+220%
|
25
−220%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+323%
|
12−14
−323%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+173%
|
26
−173%
|
Valorant | 140−150
+46%
|
100
−46%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+308%
|
12−14
−308%
|
Battlefield 5 | 80−85
+153%
|
32
−153%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+208%
|
12−14
−208%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+170%
|
87
−170%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+500%
|
7
−500%
|
Dota 2 | 110−120
+61.8%
|
68
−61.8%
|
Far Cry 5 | 65−70
+319%
|
16
−319%
|
Fortnite | 88
+159%
|
34
−159%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+281%
|
21
−281%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+323%
|
12−14
−323%
|
Grand Theft Auto V | 73
+181%
|
26
−181%
|
Metro Exodus | 40−45
+617%
|
6
−617%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
+127%
|
22
−127%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70
+268%
|
19
−268%
|
Valorant | 140−150
+46%
|
100
−46%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+212%
|
26
−212%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+208%
|
12−14
−208%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+282%
|
10−12
−282%
|
Dota 2 | 110−120
+77.4%
|
62
−77.4%
|
Far Cry 5 | 61
+336%
|
14
−336%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+471%
|
14
−471%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+323%
|
12−14
−323%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
+167%
|
15
−167%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
+264%
|
11
−264%
|
Valorant | 140−150
+125%
|
65−70
−125%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
+146%
|
24
−146%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+320%
|
5−6
−320%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+158%
|
55
−158%
|
Grand Theft Auto V | 33
+450%
|
6−7
−450%
|
Metro Exodus | 24−27
+420%
|
5−6
−420%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+300%
|
43
−300%
|
Valorant | 180−190
+177%
|
66
−177%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
+700%
|
7−8
−700%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+375%
|
4−5
−375%
|
Far Cry 5 | 43
+291%
|
10−12
−291%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+285%
|
12−14
−285%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+300%
|
9−10
−300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+256%
|
9−10
−256%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45−50
+318%
|
10−12
−318%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+220%
|
5−6
−220%
|
Counter-Strike 2 | 9−10 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 33
+94.1%
|
16−18
−94.1%
|
Metro Exodus | 16−18 | 0−1 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+1350%
|
2−3
−1350%
|
Valorant | 110−120
+239%
|
33
−239%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
+900%
|
3−4
−900%
|
Counter-Strike 2 | 9−10 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Dota 2 | 86
+258%
|
24
−258%
|
Far Cry 5 | 21−24
+267%
|
6−7
−267%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+338%
|
8−9
−338%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+500%
|
3−4
−500%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
+233%
|
6−7
−233%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 17
+240%
|
5−6
−240%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 8−9
+0%
|
8−9
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 30
+0%
|
30
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 470 และ GeForce MX150 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เร็วกว่า 146% ในความละเอียด 1080p
- RX 470 เร็วกว่า 27% ในความละเอียด 1440p
- RX 470 เร็วกว่า 95% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 470 เร็วกว่า 1350%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 20.79 | 5.82 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 สิงหาคม 2016 | 17 พฤษภาคม 2017 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 10 วัตต์ |
RX 470 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 257.2%
ในทางกลับกัน GeForce MX150 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1100%
Radeon RX 470 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX150 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 470 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce MX150 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก