Radeon Pro 560 เทียบกับ RX 470
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 470 กับ Radeon Pro 560 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 470 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 560 อย่างมหาศาลถึง 133% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 272 | 489 |
จัดอันดับตามความนิยม | 42 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.91 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.08 | 8.29 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Ellesmere | Polaris 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 4 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $179 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 926 MHz | 907 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1206 MHz | ไม่มีข้อมูล |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 3,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 154.4 | 58.05 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.94 TFLOPS | 1.858 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 128 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x8 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1650 MHz | 1270 MHz |
211.2 จีบี/s | 81.28 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
+156%
| 27−30
−156%
|
1440p | 38
+138%
| 16−18
−138%
|
4K | 37
+164%
| 14−16
−164%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.59 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.71 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 4.84 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
+152%
|
21−24
−152%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+131%
|
16−18
−131%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+147%
|
16−18
−147%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
+152%
|
21−24
−152%
|
Battlefield 5 | 80−85
+119%
|
35−40
−119%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+131%
|
16−18
−131%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+147%
|
16−18
−147%
|
Far Cry 5 | 65−70
+139%
|
27−30
−139%
|
Fortnite | 100−110
+102%
|
50−55
−102%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+116%
|
35−40
−116%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+162%
|
21−24
−162%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+137%
|
30−33
−137%
|
Valorant | 140−150
+71.8%
|
85−90
−71.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+152%
|
21−24
−152%
|
Battlefield 5 | 80−85
+119%
|
35−40
−119%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+131%
|
16−18
−131%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+78%
|
130−140
−78%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+147%
|
16−18
−147%
|
Dota 2 | 110−120
+74.6%
|
60−65
−74.6%
|
Far Cry 5 | 65−70
+139%
|
27−30
−139%
|
Fortnite | 88
+72.5%
|
50−55
−72.5%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+116%
|
35−40
−116%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+162%
|
21−24
−162%
|
Grand Theft Auto V | 73
+128%
|
30−35
−128%
|
Metro Exodus | 40−45
+153%
|
16−18
−153%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
+66.7%
|
30−33
−66.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70
+218%
|
21−24
−218%
|
Valorant | 140−150
+71.8%
|
85−90
−71.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+119%
|
35−40
−119%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+131%
|
16−18
−131%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+147%
|
16−18
−147%
|
Dota 2 | 110−120
+74.6%
|
60−65
−74.6%
|
Far Cry 5 | 61
+118%
|
27−30
−118%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+116%
|
35−40
−116%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+162%
|
21−24
−162%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
+33.3%
|
30−33
−33.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
+81.8%
|
21−24
−81.8%
|
Valorant | 140−150
+71.8%
|
85−90
−71.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
+15.7%
|
50−55
−15.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+133%
|
9−10
−133%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+118%
|
65−70
−118%
|
Grand Theft Auto V | 33
+175%
|
12−14
−175%
|
Metro Exodus | 24−27
+189%
|
9−10
−189%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+300%
|
40−45
−300%
|
Valorant | 180−190
+90.6%
|
95−100
−90.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
+195%
|
18−20
−195%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+171%
|
7−8
−171%
|
Far Cry 5 | 43
+139%
|
18−20
−139%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+150%
|
20−22
−150%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+140%
|
14−16
−140%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+146%
|
12−14
−146%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45−50
+171%
|
16−18
−171%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+129%
|
7−8
−129%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
Grand Theft Auto V | 33
+73.7%
|
18−20
−73.7%
|
Metro Exodus | 16−18
+300%
|
4−5
−300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+263%
|
8−9
−263%
|
Valorant | 110−120
+155%
|
40−45
−155%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
+233%
|
9−10
−233%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
Dota 2 | 86
+177%
|
30−35
−177%
|
Far Cry 5 | 21−24
+144%
|
9−10
−144%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+150%
|
14−16
−150%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+200%
|
6−7
−200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
+150%
|
8−9
−150%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 17
+113%
|
8−9
−113%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 10−12
+0%
|
10−12
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 470 และ Pro 560 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เร็วกว่า 156% ในความละเอียด 1080p
- RX 470 เร็วกว่า 138% ในความละเอียด 1440p
- RX 470 เร็วกว่า 164% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 470 เร็วกว่า 350%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 20.94 | 8.99 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 สิงหาคม 2016 | 18 เมษายน 2017 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX 470 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 132.9%
ในทางกลับกัน Pro 560 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 60%
Radeon RX 470 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 560 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 470 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro 560 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา