GeForce MX330 เทียบกับ Radeon Pro Vega 20
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro Vega 20 กับ GeForce MX330 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro Vega 20 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX330 อย่างมหาศาลถึง 109% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 399 | 591 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.97 | 42.97 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 12 | GP108 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 พฤศจิกายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 10 กุมภาพันธ์ 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1280 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 815 MHz | 1531 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1283 MHz | 1594 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 1,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 Watt | 10 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 102.6 | 38.26 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.284 TFLOPS | 1.224 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 80 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 1024 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 740 MHz | 1502 MHz |
189.4 จีบี/s | 48.06 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.3 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 61
+165%
| 23
−165%
|
4K | 41
+78.3%
| 23
−78.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+152%
|
27−30
−152%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
+108%
|
12−14
−108%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
Battlefield 5 | 74
+155%
|
29
−155%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+152%
|
27−30
−152%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
+108%
|
12−14
−108%
|
Far Cry 5 | 40
+73.9%
|
23
−73.9%
|
Fortnite | 70−75
+12.7%
|
63
−12.7%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+67.7%
|
31
−67.7%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+138%
|
16−18
−138%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+100%
|
21−24
−100%
|
Valorant | 100−110
−10.3%
|
118
+10.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
Battlefield 5 | 63
+174%
|
23
−174%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+152%
|
27−30
−152%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 170−180
+77.6%
|
95−100
−77.6%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
+108%
|
12−14
−108%
|
Dota 2 | 85
+21.4%
|
70
−21.4%
|
Far Cry 5 | 37
+147%
|
15
−147%
|
Fortnite | 70−75
+109%
|
34
−109%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+136%
|
22
−136%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+138%
|
16−18
−138%
|
Grand Theft Auto V | 45−50
+124%
|
21−24
−124%
|
Metro Exodus | 24−27
+127%
|
11
−127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+100%
|
21−24
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50
+163%
|
19
−163%
|
Valorant | 100−110
+0.9%
|
106
−0.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60
+216%
|
19
−216%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
+108%
|
12−14
−108%
|
Dota 2 | 78
+21.9%
|
64
−21.9%
|
Far Cry 5 | 37
+164%
|
14
−164%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+225%
|
16
−225%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+100%
|
21−24
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
+158%
|
12
−158%
|
Valorant | 100−110
+59.7%
|
65−70
−59.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 70−75
+238%
|
21
−238%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+156%
|
9−10
−156%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 90−95
+104%
|
45−50
−104%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
+171%
|
7−8
−171%
|
Metro Exodus | 14−16
+200%
|
5−6
−200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+162%
|
35−40
−162%
|
Valorant | 130−140
+98.5%
|
65−70
−98.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
+267%
|
9−10
−267%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
+120%
|
5−6
−120%
|
Far Cry 5 | 27−30
+125%
|
12−14
−125%
|
Forza Horizon 4 | 30−33
+114%
|
14−16
−114%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
+111%
|
9−10
−111%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 27−30
+125%
|
12−14
−125%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 10−11
+100%
|
5−6
−100%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
+133%
|
3−4
−133%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
+41.2%
|
16−18
−41.2%
|
Metro Exodus | 8−9 | 0−1 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
+433%
|
3−4
−433%
|
Valorant | 65−70
+120%
|
30−33
−120%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 16−18
+325%
|
4−5
−325%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
+133%
|
3−4
−133%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
+100%
|
2−3
−100%
|
Dota 2 | 41
+70.8%
|
24
−70.8%
|
Far Cry 5 | 12−14
+117%
|
6−7
−117%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
+133%
|
9−10
−133%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
+100%
|
6−7
−100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 12−14
+100%
|
6−7
−100%
|
นี่คือวิธีที่ Pro Vega 20 และ GeForce MX330 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro Vega 20 เร็วกว่า 165% ในความละเอียด 1080p
- Pro Vega 20 เร็วกว่า 78% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro Vega 20 เร็วกว่า 433%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GeForce MX330 เร็วกว่า 10%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro Vega 20 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (98%)
- GeForce MX330 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 11.27 | 5.40 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 พฤศจิกายน 2018 | 10 กุมภาพันธ์ 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 วัตต์ | 10 วัตต์ |
Pro Vega 20 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 108.7% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX330 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 900%
Radeon Pro Vega 20 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX330 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro Vega 20 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce MX330 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพาเช่นกัน