Radeon RX 7600M XT เทียบกับ GeForce RTX 4070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4070 กับ Radeon RX 7600M XT รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7600M XT อย่างมหาศาลถึง 106% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 24 | 161 |
จัดอันดับตามความนิยม | 36 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 60.53 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 24.11 | 19.49 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD104 | Navi 33 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $599 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 5888 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1920 MHz | 1280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2475 MHz | 2469 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 35,800 million | 13,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 Watt | 120 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 455.4 | 316.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 29.15 TFLOPS | 20.23 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 184 | 128 |
Tensor Cores | 184 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 46 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 240 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 2250 MHz |
504.2 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 215
+85.3%
| 116
−85.3%
|
1440p | 121
+124%
| 54
−124%
|
4K | 73
+128%
| 32
−128%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.79 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.95 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 8.21 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 320
+72%
|
186
−72%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+58.1%
|
105
−58.1%
|
Cyberpunk 2077 | 216
+86.2%
|
116
−86.2%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 250
+78.6%
|
140
−78.6%
|
Battlefield 5 | 170−180
+50%
|
110−120
−50%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+84.4%
|
90
−84.4%
|
Cyberpunk 2077 | 174
+81.3%
|
96
−81.3%
|
Far Cry 5 | 210
+65.4%
|
127
−65.4%
|
Fortnite | 300−350
+111%
|
140−150
−111%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+4.5%
|
245
−4.5%
|
Forza Horizon 5 | 180−190
+105%
|
90−95
−105%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+40.5%
|
120−130
−40.5%
|
Valorant | 350−400
+85.3%
|
190−200
−85.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 148
+74.1%
|
85
−74.1%
|
Battlefield 5 | 170−180
+50%
|
110−120
−50%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+102%
|
82
−102%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0.7%
|
270−280
−0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 143
+76.5%
|
81
−76.5%
|
Far Cry 5 | 204
+60.6%
|
127
−60.6%
|
Fortnite | 300−350
+111%
|
140−150
−111%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+8%
|
237
−8%
|
Forza Horizon 5 | 180−190
+105%
|
90−95
−105%
|
Grand Theft Auto V | 174
+30.8%
|
133
−30.8%
|
Metro Exodus | 168
+71.4%
|
98
−71.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+40.5%
|
120−130
−40.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 351
+88.7%
|
186
−88.7%
|
Valorant | 350−400
+85.3%
|
190−200
−85.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 170−180
+50%
|
110−120
−50%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+177%
|
60
−177%
|
Cyberpunk 2077 | 128
+73%
|
74
−73%
|
Far Cry 5 | 189
+57.5%
|
120
−57.5%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+42.2%
|
180
−42.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+40.5%
|
120−130
−40.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 170
+61.9%
|
105
−61.9%
|
Valorant | 350−400
+85.3%
|
190−200
−85.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+111%
|
140−150
−111%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
+113%
|
30−33
−113%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 450−500
+128%
|
210−220
−128%
|
Grand Theft Auto V | 137
+95.7%
|
70
−95.7%
|
Metro Exodus | 104
+79.3%
|
58
−79.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
+90.6%
|
230−240
−90.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160−170
+94%
|
80−85
−94%
|
Cyberpunk 2077 | 81
+68.8%
|
48
−68.8%
|
Far Cry 5 | 171
+67.6%
|
102
−67.6%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
+54.9%
|
142
−54.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
+101%
|
76
−101%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+88.8%
|
80−85
−88.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 60−65
+140%
|
24−27
−140%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+4400%
|
1
−4400%
|
Grand Theft Auto V | 146
+97.3%
|
74
−97.3%
|
Metro Exodus | 65
+85.7%
|
35
−85.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 115
+117%
|
53
−117%
|
Valorant | 300−350
+73.3%
|
190−200
−73.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+143%
|
45−50
−143%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+246%
|
13
−246%
|
Cyberpunk 2077 | 36
+63.6%
|
22
−63.6%
|
Far Cry 5 | 93
+82.4%
|
51
−82.4%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
+91.1%
|
90
−91.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+153%
|
35−40
−153%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+108%
|
35−40
−108%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+0%
|
90−95
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+0%
|
27−30
+0%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+0%
|
55−60
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4070 และ RX 7600M XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 85% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 124% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 128% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 4400%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (88%)
- เสมอกันใน 8การทดสอบ (12%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 69.19 | 33.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 เมษายน 2023 | 4 มกราคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 วัตต์ | 120 วัตต์ |
RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 106.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
ในทางกลับกัน RX 7600M XT มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 66.7%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7600M XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon RX 7600M XT เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก