GeForce RTX 4070 เทียบกับ RTX 3090
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3090 และ GeForce RTX 4070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3090 อย่างน้อย 1% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 30 | 27 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 29 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 14.98 | 60.64 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.54 | 23.94 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,499 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3090 อยู่ 305%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10496 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1395 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1695 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 556.0 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 35.58 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 112 | 64 |
TMUs | 328 | 184 |
Tensor Cores | 328 | 184 |
Ray Tracing Cores | 82 | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 336 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1219 MHz | 1313 MHz |
936.2 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 193
−10.9%
| 214
+10.9%
|
1440p | 127
+5%
| 121
−5%
|
4K | 85
+16.4%
| 73
−16.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 7.77
−177%
| 2.80
+177%
|
1440p | 11.80
−138%
| 4.95
+138%
|
4K | 17.64
−115%
| 8.21
+115%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 349
+11.1%
|
300−350
−11.1%
|
Cyberpunk 2077 | 209
−3.3%
|
216
+3.3%
|
Hogwarts Legacy | 189
+15.2%
|
164
−15.2%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 172
−1.2%
|
170−180
+1.2%
|
Counter-Strike 2 | 347
+10.5%
|
300−350
−10.5%
|
Cyberpunk 2077 | 178
+2.3%
|
174
−2.3%
|
Far Cry 5 | 208
−1%
|
210
+1%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 254
−0.8%
|
250−260
+0.8%
|
Forza Horizon 5 | 210
+11.7%
|
180−190
−11.7%
|
Hogwarts Legacy | 167
+12.8%
|
148
−12.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
−1.4%
|
350−400
+1.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 158
−10.1%
|
170−180
+10.1%
|
Counter-Strike 2 | 309
−1.6%
|
300−350
+1.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 154
+7.7%
|
143
−7.7%
|
Dota 2 | 217
+3.3%
|
210−220
−3.3%
|
Far Cry 5 | 196
−4.1%
|
204
+4.1%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 247
−3.6%
|
250−260
+3.6%
|
Forza Horizon 5 | 195
+3.7%
|
180−190
−3.7%
|
Grand Theft Auto V | 171
−1.8%
|
174
+1.8%
|
Hogwarts Legacy | 141
+7.6%
|
131
−7.6%
|
Metro Exodus | 176
+4.8%
|
168
−4.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 369
+5.1%
|
351
−5.1%
|
Valorant | 350−400
−1.4%
|
350−400
+1.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 146
−19.2%
|
170−180
+19.2%
|
Cyberpunk 2077 | 136
+6.3%
|
128
−6.3%
|
Dota 2 | 213
+1.4%
|
210−220
−1.4%
|
Far Cry 5 | 183
−3.3%
|
189
+3.3%
|
Forza Horizon 4 | 217
−18%
|
250−260
+18%
|
Hogwarts Legacy | 112
−0.9%
|
113
+0.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 182
+7.1%
|
170
−7.1%
|
Valorant | 296
−23.6%
|
350−400
+23.6%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 231
+16.7%
|
190−200
−16.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 450−500
−1.6%
|
500−550
+1.6%
|
Grand Theft Auto V | 150
+9.5%
|
137
−9.5%
|
Metro Exodus | 115
+10.6%
|
104
−10.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
−2.1%
|
400−450
+2.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130
−25.4%
|
160−170
+25.4%
|
Cyberpunk 2077 | 93
+14.8%
|
81
−14.8%
|
Far Cry 5 | 171
+0%
|
171
+0%
|
Forza Horizon 4 | 197
−12.2%
|
220−230
+12.2%
|
Hogwarts Legacy | 92
+9.5%
|
84
−9.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 153
+0.7%
|
150−160
−0.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 59
−50.8%
|
85−90
+50.8%
|
Grand Theft Auto V | 182
+24.7%
|
146
−24.7%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
−2.2%
|
45−50
+2.2%
|
Metro Exodus | 76
+16.9%
|
65
−16.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 154
+33.9%
|
115
−33.9%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 113
−5.3%
|
110−120
+5.3%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
−2.3%
|
85−90
+2.3%
|
Cyberpunk 2077 | 46
+27.8%
|
36
−27.8%
|
Dota 2 | 202
+1%
|
200−210
−1%
|
Far Cry 5 | 108
+16.1%
|
93
−16.1%
|
Forza Horizon 4 | 153
−13.1%
|
170−180
+13.1%
|
Hogwarts Legacy | 53
+26.2%
|
42
−26.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3090 และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 11% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3090 เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3090 เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3090 เร็วกว่า 34%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 51%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3090 เหนือกว่าใน 25การทดสอบ (40%)
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 25การทดสอบ (40%)
- เสมอกันใน 13การทดสอบ (21%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 59.69 | 60.34 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 200 วัตต์ |
RTX 3090 มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 75%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 3090 และ GeForce RTX 4070 ได้อย่างชัดเจน