Radeon RX 7800 XT เทียบกับ GeForce RTX 3050 Mobile
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3050 Mobile กับ Radeon RX 7800 XT รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3050 Mobile อย่างมหาศาลถึง 165% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 243 | 33 |
จัดอันดับตามความนิยม | 46 | 66 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 67.93 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 21.77 | 16.46 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA107 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 11 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 712 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1057 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 67.65 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.329 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 40 | 96 |
TMUs | 64 | 240 |
Tensor Cores | 64 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 16 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 2438 MHz |
192.0 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 93
−132%
| 216
+132%
|
1440p | 51
−143%
| 124
+143%
|
4K | 33
−115%
| 71
+115%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.31 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.02 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.03 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 127
−155%
|
324
+155%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−460%
|
241
+460%
|
Cyberpunk 2077 | 106
−134%
|
248
+134%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 99
−145%
|
243
+145%
|
Battlefield 5 | 90−95
−82.2%
|
160−170
+82.2%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−365%
|
200
+365%
|
Cyberpunk 2077 | 83
−136%
|
196
+136%
|
Far Cry 5 | 118
−72.9%
|
204
+72.9%
|
Fortnite | 110−120
−138%
|
260−270
+138%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−212%
|
278
+212%
|
Forza Horizon 5 | 97
−185%
|
276
+185%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−106%
|
170−180
+106%
|
Valorant | 150−160
−104%
|
300−350
+104%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 57
−154%
|
145
+154%
|
Battlefield 5 | 90−95
−82.2%
|
160−170
+82.2%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−279%
|
163
+279%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−11.6%
|
270−280
+11.6%
|
Cyberpunk 2077 | 61
−167%
|
163
+167%
|
Dota 2 | 169
−137%
|
400−450
+137%
|
Far Cry 5 | 107
−83.2%
|
196
+83.2%
|
Fortnite | 110−120
−138%
|
260−270
+138%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−193%
|
261
+193%
|
Forza Horizon 5 | 74
−246%
|
256
+246%
|
Grand Theft Auto V | 128
−39.1%
|
178
+39.1%
|
Metro Exodus | 62
−177%
|
172
+177%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−106%
|
170−180
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 168
−118%
|
366
+118%
|
Valorant | 150−160
−104%
|
300−350
+104%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−82.2%
|
160−170
+82.2%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−247%
|
149
+247%
|
Cyberpunk 2077 | 61
−146%
|
150
+146%
|
Dota 2 | 155
−158%
|
400−450
+158%
|
Far Cry 5 | 99
−83.8%
|
182
+83.8%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−149%
|
222
+149%
|
Forza Horizon 5 | 69
−161%
|
180−190
+161%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−106%
|
170−180
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 65
−208%
|
200
+208%
|
Valorant | 150−160
−104%
|
300−350
+104%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−138%
|
260−270
+138%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
−132%
|
50−55
+132%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
−170%
|
400−450
+170%
|
Grand Theft Auto V | 57
−146%
|
140
+146%
|
Metro Exodus | 36
−194%
|
106
+194%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Valorant | 190−200
−88.3%
|
350−400
+88.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−131%
|
140−150
+131%
|
Cyberpunk 2077 | 30
−230%
|
99
+230%
|
Far Cry 5 | 68
−159%
|
176
+159%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−254%
|
202
+254%
|
Forza Horizon 5 | 47
−155%
|
120−130
+155%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−297%
|
147
+297%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−190%
|
150−160
+190%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 18−20
−183%
|
50−55
+183%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
−227%
|
35−40
+227%
|
Grand Theft Auto V | 57
−167%
|
152
+167%
|
Metro Exodus | 23
−174%
|
63
+174%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−168%
|
118
+168%
|
Valorant | 120−130
−148%
|
300−350
+148%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
−197%
|
100−110
+197%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
−90.9%
|
21
+90.9%
|
Cyberpunk 2077 | 12
−275%
|
45
+275%
|
Dota 2 | 93
−158%
|
240−250
+158%
|
Far Cry 5 | 35
−197%
|
104
+197%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−321%
|
164
+321%
|
Forza Horizon 5 | 24
−150%
|
60−65
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−317%
|
95−100
+317%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−229%
|
75−80
+229%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3050 Mobile และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 132% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 143% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 115% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 460%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 7800 XT เหนือกว่า RTX 3050 Mobile ในการทดสอบทั้ง 61 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.42 | 62.10 |
ความใหม่ล่าสุด | 11 พฤษภาคม 2021 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 263 วัตต์ |
RTX 3050 Mobile มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 250.7%
ในทางกลับกัน RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 165.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3050 Mobile ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3050 Mobile เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ Radeon RX 7800 XT เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป