GeForce RTX 3080 Ti เทียบกับ GTX 680
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 680 และ GeForce RTX 3080 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 680 อย่างมหาศาลถึง 384% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 368 | 22 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 3.03 | 22.74 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 5.13 | 13.82 |
สถาปัตยกรรม | Kepler (2012−2018) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GK104 | GA102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 มีนาคม 2012 (เมื่อ 12 ปี ปีที่แล้ว) | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3080 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 680 อยู่ 650%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1006 MHz | 1365 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1058 MHz | 1665 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,540 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 195 Watt | 350 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 135.4 | 532.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.25 TFLOPS | 34.1 TFLOPS |
ROPs | 32 | 112 |
TMUs | 128 | 320 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 254 mm | 285 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 6-pin | 1x 12-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 2048 เอ็มบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256-bit GDDR5 | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1502 MHz | 1188 MHz |
192.2 จีบี/s | 912.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | One Dual Link DVI-I, One Dual Link DVI-D, One HDMI, One DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
รองรับหลายจอภาพ | 4 displays | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
HDCP | + | - |
ความละเอียด VGA สูงสุด | 2048x1536 | ไม่มีข้อมูล |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | Internal | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.6 |
OpenGL | 4.2 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.2 |
CUDA | + | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 45
−367%
| 210−220
+367%
|
Full HD | 75
−185%
| 214
+185%
|
1440p | 27−30
−437%
| 145
+437%
|
4K | 25
−288%
| 97
+288%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 6.65
−18.8%
| 5.60
+18.8%
|
1440p | 18.48
−124%
| 8.27
+124%
|
4K | 19.96
−61.5%
| 12.36
+61.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
−474%
|
200−210
+474%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−564%
|
160−170
+564%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−682%
|
219
+682%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
−474%
|
200−210
+474%
|
Battlefield 5 | 55−60
−195%
|
170−180
+195%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−564%
|
160−170
+564%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−557%
|
184
+557%
|
Far Cry 5 | 45−50
−352%
|
208
+352%
|
Fortnite | 75−80
−287%
|
300−350
+287%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−351%
|
250−260
+351%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−441%
|
200
+441%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−261%
|
170−180
+261%
|
Valorant | 110−120
−218%
|
350−400
+218%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−474%
|
200−210
+474%
|
Battlefield 5 | 55−60
−195%
|
170−180
+195%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−564%
|
160−170
+564%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 224
−24.1%
|
270−280
+24.1%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−471%
|
160
+471%
|
Dota 2 | 85−90
−166%
|
234
+166%
|
Far Cry 5 | 45−50
−330%
|
198
+330%
|
Fortnite | 75−80
−287%
|
300−350
+287%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−351%
|
250−260
+351%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−408%
|
188
+408%
|
Grand Theft Auto V | 56
−211%
|
174
+211%
|
Metro Exodus | 27−30
−514%
|
172
+514%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−261%
|
170−180
+261%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 42
−786%
|
372
+786%
|
Valorant | 110−120
−218%
|
350−400
+218%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
−232%
|
196
+232%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−564%
|
160−170
+564%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−421%
|
146
+421%
|
Dota 2 | 85−90
−147%
|
217
+147%
|
Far Cry 5 | 45−50
−304%
|
186
+304%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−351%
|
250−260
+351%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−359%
|
170−180
+359%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−261%
|
170−180
+261%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 22
−723%
|
181
+723%
|
Valorant | 110−120
−237%
|
388
+237%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 75−80
−287%
|
300−350
+287%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
−300%
|
60−65
+300%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 100−110
−390%
|
500−550
+390%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−629%
|
153
+629%
|
Metro Exodus | 16−18
−571%
|
114
+571%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−42.3%
|
170−180
+42.3%
|
Valorant | 140−150
−212%
|
400−450
+212%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−405%
|
192
+405%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−725%
|
99
+725%
|
Far Cry 5 | 30−33
−487%
|
176
+487%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−570%
|
220−230
+570%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−358%
|
110−120
+358%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−629%
|
150−160
+629%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 30−33
−403%
|
150−160
+403%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 10−12
−445%
|
60−65
+445%
|
Counter-Strike 2 | 6−7
−650%
|
45−50
+650%
|
Grand Theft Auto V | 21
−767%
|
182
+767%
|
Metro Exodus | 10−11
−660%
|
76
+660%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16
−850%
|
152
+850%
|
Valorant | 70−75
−347%
|
300−350
+347%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
−616%
|
136
+616%
|
Counter-Strike 2 | 6−7
−650%
|
45−50
+650%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−900%
|
50
+900%
|
Dota 2 | 45−50
−331%
|
211
+331%
|
Far Cry 5 | 14−16
−679%
|
109
+679%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−621%
|
170−180
+621%
|
Forza Horizon 5 | 10−12
−355%
|
50−55
+355%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−638%
|
95−100
+638%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−508%
|
75−80
+508%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 680 และ RTX 3080 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 367% ในความละเอียด 900p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 185% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 437% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 288% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 900%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3080 Ti เหนือกว่า GTX 680 ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.34 | 69.38 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 มีนาคม 2012 | 31 พฤษภาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2048 เอ็มบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 195 วัตต์ | 350 วัตต์ |
GTX 680 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 79.5%
ในทางกลับกัน RTX 3080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 383.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 250%
GeForce RTX 3080 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 680 ในการทดสอบประสิทธิภาพ