Radeon RX 9070 XT เทียบกับ GeForce GTX 1650
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 และ Radeon RX 9070 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 9070 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 อย่างมหาศาลถึง 245% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 290 | 28 |
จัดอันดับตามความนิยม | 4 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 34.78 | 61.17 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.59 | 15.82 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $149 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 9070 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1650 อยู่ 76%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 896 | 4096 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1485 MHz | 1660 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2970 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 304 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 93.24 | 760.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.984 TFLOPS | 48.66 TFLOPS |
ROPs | 32 | 128 |
TMUs | 56 | 256 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 128 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2518 MHz |
128.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 64
−227%
| 209
+227%
|
1440p | 38
−242%
| 130
+242%
|
4K | 24
−246%
| 83
+246%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.33
+23.1%
| 2.87
−23.1%
|
1440p | 3.92
+17.5%
| 4.61
−17.5%
|
4K | 6.21
+16.2%
| 7.22
−16.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
−185%
|
300−350
+185%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−302%
|
160−170
+302%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−624%
|
268
+624%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 61
−187%
|
170−180
+187%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−185%
|
300−350
+185%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−302%
|
160−170
+302%
|
Far Cry 5 | 69
−329%
|
296
+329%
|
Fortnite | 211
−43.1%
|
300−350
+43.1%
|
Forza Horizon 4 | 90
−188%
|
250−260
+188%
|
Forza Horizon 5 | 73
−160%
|
190−200
+160%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−546%
|
239
+546%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90
−95.6%
|
170−180
+95.6%
|
Valorant | 292
−27.1%
|
350−400
+27.1%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 53
−230%
|
170−180
+230%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−185%
|
300−350
+185%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
−20.3%
|
270−280
+20.3%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−302%
|
160−170
+302%
|
Dota 2 | 97
−209%
|
300−310
+209%
|
Far Cry 5 | 63
−352%
|
285
+352%
|
Fortnite | 85
−255%
|
300−350
+255%
|
Forza Horizon 4 | 83
−212%
|
250−260
+212%
|
Forza Horizon 5 | 62
−206%
|
190−200
+206%
|
Grand Theft Auto V | 81
−107%
|
160−170
+107%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−422%
|
193
+422%
|
Metro Exodus | 35
−377%
|
160−170
+377%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 86
−105%
|
170−180
+105%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 71
−600%
|
497
+600%
|
Valorant | 260
−42.7%
|
350−400
+42.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 51
−243%
|
170−180
+243%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−302%
|
160−170
+302%
|
Dota 2 | 92
−226%
|
300−310
+226%
|
Far Cry 5 | 59
−358%
|
270
+358%
|
Forza Horizon 4 | 65
−298%
|
250−260
+298%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−295%
|
146
+295%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 66
−167%
|
170−180
+167%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 41
−573%
|
276
+573%
|
Valorant | 70
−430%
|
350−400
+430%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 61
−395%
|
300−350
+395%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−400%
|
200−210
+400%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−268%
|
500−550
+268%
|
Grand Theft Auto V | 40
−243%
|
130−140
+243%
|
Metro Exodus | 20
−455%
|
110−120
+455%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.9%
|
170−180
+2.9%
|
Valorant | 177
−158%
|
450−500
+158%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 39
−323%
|
160−170
+323%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−422%
|
90−95
+422%
|
Far Cry 5 | 40
−550%
|
260
+550%
|
Forza Horizon 4 | 46
−387%
|
220−230
+387%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−452%
|
116
+452%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
−584%
|
212
+584%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 42
−260%
|
150−160
+260%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
−429%
|
90−95
+429%
|
Grand Theft Auto V | 33
−382%
|
150−160
+382%
|
Hogwarts Legacy | 12−14
−308%
|
45−50
+308%
|
Metro Exodus | 12
−500%
|
70−75
+500%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 26
−569%
|
174
+569%
|
Valorant | 83
−300%
|
300−350
+300%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21
−476%
|
120−130
+476%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−429%
|
90−95
+429%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−463%
|
45−50
+463%
|
Dota 2 | 59
−239%
|
200−210
+239%
|
Far Cry 5 | 19
−700%
|
152
+700%
|
Forza Horizon 4 | 30
−487%
|
170−180
+487%
|
Hogwarts Legacy | 12−14
−467%
|
68
+467%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 26
−269%
|
95−100
+269%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 และ RX 9070 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 XT เร็วกว่า 227% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 XT เร็วกว่า 242% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 XT เร็วกว่า 246% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 9070 XT เร็วกว่า 700%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 9070 XT เหนือกว่า GTX 1650 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.70 | 64.51 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 6 มีนาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 304 วัตต์ |
GTX 1650 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 305.3%
ในทางกลับกัน RX 9070 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 245% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
Radeon RX 9070 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 ในการทดสอบประสิทธิภาพ