Radeon RX 6600M เทียบกับ GeForce GTX 1050 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1050 Max-Q และ Radeon RX 6600M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 6600M มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 244% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 445 | 140 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.62 | 24.80 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP107 | Navi 23 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2018 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 1792 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1190 MHz | 2068 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1328 MHz | 2416 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,300 million | 11,060 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 100 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 53.12 | 270.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.7 TFLOPS | 8.659 TFLOPS |
ROPs | 16 | 64 |
TMUs | 40 | 112 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1752 MHz | 1750 MHz |
112.1 จีบี/s | 224.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.1 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 6.1 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 46
−117%
| 100
+117%
|
1440p | 27
−104%
| 55
+104%
|
4K | 14
−114%
| 30
+114%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 24−27
−583%
|
164
+583%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−264%
|
190−200
+264%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−435%
|
107
+435%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 24−27
−375%
|
114
+375%
|
Battlefield 5 | 46
−163%
|
120−130
+163%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−264%
|
190−200
+264%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−315%
|
83
+315%
|
Far Cry 5 | 37
−214%
|
116
+214%
|
Fortnite | 112
−33.9%
|
150−160
+33.9%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−370%
|
202
+370%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−303%
|
121
+303%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−283%
|
130−140
+283%
|
Valorant | 90−95
−120%
|
200−210
+120%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−179%
|
67
+179%
|
Battlefield 5 | 40
−203%
|
120−130
+203%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−264%
|
190−200
+264%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 144
−92.4%
|
270−280
+92.4%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−245%
|
69
+245%
|
Dota 2 | 116
+1.8%
|
114
−1.8%
|
Far Cry 5 | 34
−218%
|
108
+218%
|
Fortnite | 49
−206%
|
150−160
+206%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−363%
|
199
+363%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−280%
|
114
+280%
|
Grand Theft Auto V | 45
−158%
|
116
+158%
|
Metro Exodus | 19
−321%
|
80
+321%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 51
−163%
|
130−140
+163%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−306%
|
142
+306%
|
Valorant | 90−95
−120%
|
200−210
+120%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
−227%
|
120−130
+227%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−205%
|
61
+205%
|
Dota 2 | 104
+0%
|
104
+0%
|
Far Cry 5 | 31
−226%
|
101
+226%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−291%
|
168
+291%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 34
−294%
|
130−140
+294%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21
−305%
|
85
+305%
|
Valorant | 90−95
−54.8%
|
144
+54.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 37
−305%
|
150−160
+305%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
−361%
|
80−85
+361%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 94
−147%
|
230−240
+147%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
−336%
|
61
+336%
|
Metro Exodus | 11
−327%
|
47
+327%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−257%
|
170−180
+257%
|
Valorant | 100−110
−120%
|
240−250
+120%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−267%
|
85−90
+267%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−388%
|
39
+388%
|
Far Cry 5 | 22
−309%
|
90
+309%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−433%
|
128
+433%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−313%
|
62
+313%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 21−24
−310%
|
85−90
+310%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 8−9
−238%
|
27−30
+238%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−850%
|
35−40
+850%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 53
−240%
|
180−190
+240%
|
Grand Theft Auto V | 28
−107%
|
58
+107%
|
Metro Exodus | 7
−300%
|
28
+300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
−238%
|
44
+238%
|
Valorant | 50−55
−292%
|
200−210
+292%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 12−14
−342%
|
50−55
+342%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−850%
|
35−40
+850%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−533%
|
19
+533%
|
Dota 2 | 37
−116%
|
80
+116%
|
Far Cry 5 | 11
−300%
|
44
+300%
|
Forza Horizon 4 | 16−18
−335%
|
74
+335%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 11
−282%
|
40−45
+282%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 9
−356%
|
40−45
+356%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1050 Max-Q และ RX 6600M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 6600M เร็วกว่า 117% ในความละเอียด 1080p
- RX 6600M เร็วกว่า 104% ในความละเอียด 1440p
- RX 6600M เร็วกว่า 114% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1050 Max-Q เร็วกว่า 2%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 6600M เร็วกว่า 850%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1050 Max-Q เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 6600M เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.06 | 31.13 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2018 | 31 พฤษภาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 100 วัตต์ |
GTX 1050 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 33.3%
ในทางกลับกัน RX 6600M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 243.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
Radeon RX 6600M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ