Radeon 680M เทียบกับ GeForce 930MX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce 930MX และ Radeon 680M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
680M มีประสิทธิภาพดีกว่า 930MX อย่างมหาศาลถึง 160% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 747 | 506 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.49 | 11.93 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell (2014−2017) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GM108 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 มีนาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 952 MHz | 2000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1020 MHz | 2200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 17 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 24.48 | 105.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.7834 TFLOPS | 3.379 TFLOPS |
ROPs | 8 | 32 |
TMUs | 24 | 48 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 12 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | DDR3, GDDR5 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 900 MHz | System Shared |
14.4 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GPU Boost | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
Optimus | + | - |
GameWorks | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.7 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.3 |
CUDA | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 16
−131%
| 37
+131%
|
1440p | 6−7
−183%
| 17
+183%
|
4K | 4−5
−175%
| 11
+175%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 8−9
−488%
|
47
+488%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−180%
|
28
+180%
|
Cyberpunk 2077 | 8
−375%
|
38
+375%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 8−9
−363%
|
37
+363%
|
Battlefield 5 | 15
−140%
|
35−40
+140%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−130%
|
23
+130%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−300%
|
28
+300%
|
Far Cry 5 | 11
−245%
|
38
+245%
|
Fortnite | 37
−32.4%
|
45−50
+32.4%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−140%
|
35−40
+140%
|
Forza Horizon 5 | 10
−280%
|
38
+280%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 17
−70.6%
|
27−30
+70.6%
|
Valorant | 45−50
−70.8%
|
80−85
+70.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 8−9
−150%
|
20
+150%
|
Battlefield 5 | 12
−200%
|
35−40
+200%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−110%
|
21
+110%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 55−60
−119%
|
120−130
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−200%
|
21
+200%
|
Dota 2 | 36
−97.2%
|
71
+97.2%
|
Far Cry 5 | 7−8
−400%
|
35
+400%
|
Fortnite | 15
−227%
|
45−50
+227%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−140%
|
35−40
+140%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
−233%
|
20−22
+233%
|
Grand Theft Auto V | 12
−200%
|
36
+200%
|
Metro Exodus | 2
−1050%
|
23
+1050%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 15
−93.3%
|
27−30
+93.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10
−300%
|
40
+300%
|
Valorant | 45−50
−70.8%
|
80−85
+70.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−12
−227%
|
35−40
+227%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−60%
|
16−18
+60%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−157%
|
18
+157%
|
Dota 2 | 33
−84.8%
|
61
+84.8%
|
Far Cry 5 | 7−8
−371%
|
33
+371%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−140%
|
35−40
+140%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
−333%
|
26
+333%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9
−222%
|
27−30
+222%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6
−300%
|
24
+300%
|
Valorant | 45−50
−204%
|
146
+204%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−188%
|
45−50
+188%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 21−24
−170%
|
60−65
+170%
|
Grand Theft Auto V | 2−3
−750%
|
17
+750%
|
Metro Exodus | 1−2
−700%
|
8−9
+700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−82.6%
|
40−45
+82.6%
|
Valorant | 30−35
−197%
|
90−95
+197%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 4−5
−175%
|
10−12
+175%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−400%
|
10
+400%
|
Far Cry 5 | 5−6
−320%
|
21
+320%
|
Forza Horizon 4 | 7−8
−171%
|
18−20
+171%
|
Forza Horizon 5 | 4−5
−250%
|
14−16
+250%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 5−6
−240%
|
17
+240%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 6−7
−183%
|
16−18
+183%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 3−4
−133%
|
7−8
+133%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−18.8%
|
18−20
+18.8%
|
Valorant | 16−18
−163%
|
40−45
+163%
|
4K
Ultra Preset
Cyberpunk 2077 | 1−2
−300%
|
4
+300%
|
Dota 2 | 9−10
−100%
|
18
+100%
|
Far Cry 5 | 3−4
−167%
|
8−9
+167%
|
Forza Horizon 4 | 3−4
−333%
|
12−14
+333%
|
Forza Horizon 5 | 1−2
−500%
|
6−7
+500%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 4−5
−100%
|
8−9
+100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 4−5
−100%
|
8−9
+100%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
+0%
|
18−20
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 2−3
+0%
|
2−3
+0%
|
Metro Exodus | 3−4
+0%
|
3−4
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
+0%
|
13
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
+0%
|
9−10
+0%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
+0%
|
2−3
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce 930MX และ Radeon 680M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Radeon 680M เร็วกว่า 131% ในความละเอียด 1080p
- Radeon 680M เร็วกว่า 183% ในความละเอียด 1440p
- Radeon 680M เร็วกว่า 175% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Radeon 680M เร็วกว่า 1050%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Radeon 680M เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (91%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (9%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 3.29 | 8.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 มีนาคม 2016 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 17 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GeForce 930MX มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 194.1%
ในทางกลับกัน Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 160.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 366.7%
Radeon 680M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce 930MX ในการทดสอบประสิทธิภาพ