Radeon 530 เทียบกับ VII
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon VII กับ Radeon 530 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
VII มีประสิทธิภาพดีกว่า 530 อย่างมหาศาลถึง 1489% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 96 | 821 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.17 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.90 | 3.68 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.1 (2018−2022) | GCN 3.0 (2014−2019) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 20 | Weston |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1400 MHz | 730 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1750 MHz | 1024 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,230 million | 1,550 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.0 | 24.58 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.44 TFLOPS | 0.7864 TFLOPS |
ROPs | 64 | 8 |
TMUs | 240 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x8 |
ความยาว | 280 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | DDR3/GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 4096 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1000 MHz | 900 MHz |
1024 จีบี/s | 14.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0b, 3x DisplayPort 1.4a | No outputs |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.3 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 121
+656%
| 16
−656%
|
1440p | 77
+1825%
| 4−5
−1825%
|
4K | 59
+1867%
| 3−4
−1867%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.78 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 9.08 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 11.85 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 110−120
+1883%
|
6−7
−1883%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
+3617%
|
6−7
−3617%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+1740%
|
5−6
−1740%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 110−120
+1883%
|
6−7
−1883%
|
Battlefield 5 | 136
+871%
|
14
−871%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
+3617%
|
6−7
−3617%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+1740%
|
5−6
−1740%
|
Far Cry 5 | 99
+890%
|
10
−890%
|
Fortnite | 195
+550%
|
30
−550%
|
Forza Horizon 4 | 163
+715%
|
20
−715%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
+2975%
|
4−5
−2975%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 157
+1208%
|
12−14
−1208%
|
Valorant | 220−230
+433%
|
40−45
−433%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 110−120
+1883%
|
6−7
−1883%
|
Battlefield 5 | 137
+954%
|
13
−954%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
+3617%
|
6−7
−3617%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+672%
|
36
−672%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+1740%
|
5−6
−1740%
|
Dota 2 | 160
+433%
|
30
−433%
|
Far Cry 5 | 95
+850%
|
10
−850%
|
Fortnite | 154
+1085%
|
13
−1085%
|
Forza Horizon 4 | 157
+1208%
|
12−14
−1208%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
+2975%
|
4−5
−2975%
|
Grand Theft Auto V | 111
+825%
|
12
−825%
|
Metro Exodus | 88
+2100%
|
4
−2100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 158
+1217%
|
12−14
−1217%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
+1164%
|
11
−1164%
|
Valorant | 220−230
+433%
|
40−45
−433%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 127
+1488%
|
8−9
−1488%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+1740%
|
5−6
−1740%
|
Dota 2 | 147
+425%
|
28
−425%
|
Far Cry 5 | 91
+2175%
|
4−5
−2175%
|
Forza Horizon 4 | 130
+983%
|
12−14
−983%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 143
+1092%
|
12−14
−1092%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75
+1150%
|
6
−1150%
|
Valorant | 197
+358%
|
40−45
−358%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 114
+850%
|
12−14
−850%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
+3333%
|
3−4
−3333%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+1411%
|
18−20
−1411%
|
Grand Theft Auto V | 43
+4200%
|
1−2
−4200%
|
Metro Exodus | 56
+1767%
|
3−4
−1767%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+695%
|
21−24
−695%
|
Valorant | 260−270
+1082%
|
21−24
−1082%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−105
+1567%
|
6−7
−1567%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+2200%
|
2−3
−2200%
|
Far Cry 5 | 95−100
+2275%
|
4−5
−2275%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+1800%
|
6−7
−1800%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
+1775%
|
4−5
−1775%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+2000%
|
5−6
−2000%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+1500%
|
2−3
−1500%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+2250%
|
2−3
−2250%
|
Grand Theft Auto V | 62
+313%
|
14−16
−313%
|
Metro Exodus | 37
+1750%
|
2−3
−1750%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
+1700%
|
3−4
−1700%
|
Valorant | 240−250
+1746%
|
12−14
−1746%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
+1725%
|
4−5
−1725%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+2250%
|
2−3
−2250%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+2000%
|
1−2
−2000%
|
Dota 2 | 78
+1200%
|
6−7
−1200%
|
Far Cry 5 | 59
+1867%
|
3−4
−1867%
|
Forza Horizon 4 | 77
+7600%
|
1−2
−7600%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 58
+1833%
|
3−4
−1833%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 44
+1367%
|
3−4
−1367%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon VII และ Radeon 530 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Radeon VII เร็วกว่า 656% ในความละเอียด 1080p
- Radeon VII เร็วกว่า 1825% ในความละเอียด 1440p
- Radeon VII เร็วกว่า 1867% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Radeon VII เร็วกว่า 7600%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น Radeon VII เหนือกว่า Radeon 530 ในการทดสอบทั้ง 56 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 36.71 | 2.31 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กุมภาพันธ์ 2019 | 18 เมษายน 2017 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 4 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 50 วัตต์ |
Radeon VII มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1489.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน Radeon 530 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 490%
Radeon VII เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 530 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon VII เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 530 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก