Radeon 660M เทียบกับ RX 570
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 570 กับ Radeon 660M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 570 มีประสิทธิภาพดีกว่า 660M อย่างมหาศาลถึง 163% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 315 | 568 |
จัดอันดับตามความนิยม | 16 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 15.00 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.39 | 11.85 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $169 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1168 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1244 MHz | 1900 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 40 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 159.2 | 45.60 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.095 TFLOPS | 1.459 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 128 | 24 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 6 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | System Shared |
224.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 3x DisplayPort | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | + | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 85
+240%
| 25
−240%
|
1440p | 48
+167%
| 18−20
−167%
|
4K | 30
+200%
| 10−12
−200%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.99 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 3.52 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 5.63 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
+51.7%
|
29
−51.7%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+138%
|
12−14
−138%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+50%
|
24
−50%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
+91.3%
|
23
−91.3%
|
Battlefield 5 | 88
+214%
|
27−30
−214%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+138%
|
12−14
−138%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+80%
|
20
−80%
|
Far Cry 5 | 77
+157%
|
30
−157%
|
Fortnite | 238
+510%
|
35−40
−510%
|
Forza Horizon 4 | 100
+245%
|
27−30
−245%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+56.7%
|
30
−56.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+300%
|
24−27
−300%
|
Valorant | 130−140
+87.3%
|
70−75
−87.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+238%
|
13
−238%
|
Battlefield 5 | 75
+168%
|
27−30
−168%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+182%
|
11
−182%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+104%
|
100−110
−104%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+157%
|
14
−157%
|
Dota 2 | 100−110
+80.4%
|
56
−80.4%
|
Far Cry 5 | 70
+169%
|
26
−169%
|
Fortnite | 95
+144%
|
35−40
−144%
|
Forza Horizon 4 | 94
+224%
|
27−30
−224%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+213%
|
14−16
−213%
|
Grand Theft Auto V | 73
+192%
|
25
−192%
|
Metro Exodus | 43
+187%
|
15
−187%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 87
+263%
|
24−27
−263%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+196%
|
26
−196%
|
Valorant | 130−140
+87.3%
|
70−75
−87.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
+143%
|
27−30
−143%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+138%
|
12−14
−138%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+177%
|
12−14
−177%
|
Dota 2 | 100−110
+110%
|
48
−110%
|
Far Cry 5 | 65
+160%
|
25
−160%
|
Forza Horizon 4 | 75
+159%
|
27−30
−159%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+213%
|
14−16
−213%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
+188%
|
24−27
−188%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
+187%
|
15
−187%
|
Valorant | 130−140
+87.3%
|
70−75
−87.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 72
+84.6%
|
35−40
−84.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
+171%
|
7−8
−171%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
+148%
|
50−55
−148%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
+250%
|
8−9
−250%
|
Metro Exodus | 25
+317%
|
6−7
−317%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
+332%
|
35−40
−332%
|
Valorant | 160−170
+129%
|
70−75
−129%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 52
+373%
|
10−12
−373%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+220%
|
5−6
−220%
|
Far Cry 5 | 46
+254%
|
12−14
−254%
|
Forza Horizon 4 | 59
+293%
|
14−16
−293%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+182%
|
10−12
−182%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+170%
|
10−11
−170%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45
+246%
|
12−14
−246%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
+180%
|
5−6
−180%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+700%
|
1−2
−700%
|
Grand Theft Auto V | 30
+66.7%
|
18−20
−66.7%
|
Metro Exodus | 16
+1500%
|
1−2
−1500%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 28
+600%
|
4−5
−600%
|
Valorant | 95−100
+188%
|
30−35
−188%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 31
+520%
|
5−6
−520%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+700%
|
1−2
−700%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+250%
|
2−3
−250%
|
Dota 2 | 55−60
+157%
|
21−24
−157%
|
Far Cry 5 | 24
+243%
|
7−8
−243%
|
Forza Horizon 4 | 39
+290%
|
10−11
−290%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+275%
|
4−5
−275%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27
+350%
|
6−7
−350%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+283%
|
6−7
−283%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
+0%
|
9−10
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 570 และ Radeon 660M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เร็วกว่า 240% ในความละเอียด 1080p
- RX 570 เร็วกว่า 167% ในความละเอียด 1440p
- RX 570 เร็วกว่า 200% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 570 เร็วกว่า 1500%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.89 | 6.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 40 วัตต์ |
RX 570 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 163.1%
ในทางกลับกัน Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 200%
Radeon RX 570 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 570 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 660M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก