GeForce 940M เทียบกับ Radeon Pro 560X
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 560X กับ GeForce 940M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro 560X มีประสิทธิภาพดีกว่า 940M อย่างมหาศาลถึง 226% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 475 | 797 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.73 | 6.08 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Maxwell (2014−2017) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 21 | GM108 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 16 กรกฎาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 13 มีนาคม 2015 (เมื่อ 9 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1004 MHz | 1072 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1176 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,000 million | 1,870 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 64.26 | 28.22 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.056 TFLOPS | 0.9032 TFLOPS |
ROPs | 16 | 8 |
TMUs | 64 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | medium sized |
การรองรับบัส | ไม่มีข้อมูล | PCI Express 3.0 |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 3.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | DDR3 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1270 MHz | 900 MHz |
81.28 จีบี/s | 14.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
GPU Boost | ไม่มีข้อมูล | 2.0 |
Optimus | - | + |
GameWorks | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (11_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 5.1 |
OpenGL | 4.6 | 4.5 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.1.126 |
CUDA | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 41
+116%
| 19
−116%
|
1440p | 43
−123%
| 96
+123%
|
4K | 17
−17.6%
| 20
+17.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 21−24
+214%
|
7−8
−214%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+571%
|
7−8
−571%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+200%
|
6−7
−200%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 21−24
+214%
|
7−8
−214%
|
Battlefield 5 | 43
+153%
|
17
−153%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+571%
|
7−8
−571%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+200%
|
6−7
−200%
|
Far Cry 5 | 37
+236%
|
11
−236%
|
Fortnite | 66
+83.3%
|
36
−83.3%
|
Forza Horizon 4 | 53
+308%
|
12−14
−308%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
+440%
|
5−6
−440%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
+129%
|
14
−129%
|
Valorant | 85−90
+95.6%
|
45−50
−95.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 21−24
+214%
|
7−8
−214%
|
Battlefield 5 | 36
+177%
|
13
−177%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+571%
|
7−8
−571%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 86
+26.5%
|
68
−26.5%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+200%
|
6−7
−200%
|
Dota 2 | 71
+44.9%
|
49
−44.9%
|
Far Cry 5 | 33
+230%
|
10
−230%
|
Fortnite | 40
+233%
|
12
−233%
|
Forza Horizon 4 | 50
+285%
|
12−14
−285%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
+440%
|
5−6
−440%
|
Grand Theft Auto V | 33
+371%
|
7
−371%
|
Metro Exodus | 19
+850%
|
2
−850%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
+208%
|
12−14
−208%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 34
+240%
|
10
−240%
|
Valorant | 85−90
+95.6%
|
45−50
−95.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 33
+200%
|
11
−200%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+200%
|
6−7
−200%
|
Dota 2 | 69
+53.3%
|
45
−53.3%
|
Far Cry 5 | 31
+210%
|
10
−210%
|
Forza Horizon 4 | 36
+177%
|
12−14
−177%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
+146%
|
12−14
−146%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
+233%
|
6
−233%
|
Valorant | 26
−73.1%
|
45−50
+73.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 32
+129%
|
14−16
−129%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
+433%
|
3−4
−433%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 57
+185%
|
20−22
−185%
|
Grand Theft Auto V | 12−14
+550%
|
2−3
−550%
|
Metro Exodus | 11 | 0−1 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+83.3%
|
24−27
−83.3%
|
Valorant | 100−105
+300%
|
24−27
−300%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
+250%
|
6−7
−250%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+250%
|
2−3
−250%
|
Far Cry 5 | 18−20
+375%
|
4−5
−375%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
+267%
|
6−7
−267%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
+250%
|
4−5
−250%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 18−20
+280%
|
5−6
−280%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 7−8
+250%
|
2−3
−250%
|
Counter-Strike 2 | 2−3 | 0−1 |
Counter-Strike: Global Offensive | 30
+233%
|
9−10
−233%
|
Grand Theft Auto V | 13
−23.1%
|
16−18
+23.1%
|
Metro Exodus | 7
+250%
|
2−3
−250%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
Valorant | 45−50
+236%
|
14−16
−236%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−11
+233%
|
3−4
−233%
|
Counter-Strike 2 | 2−3 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 3−4
+200%
|
1−2
−200%
|
Dota 2 | 30−35
+371%
|
7−8
−371%
|
Far Cry 5 | 10
+400%
|
2
−400%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
+650%
|
2−3
−650%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 560X และ GeForce 940M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro 560X เร็วกว่า 116% ในความละเอียด 1080p
- GeForce 940M เร็วกว่า 123% ในความละเอียด 1440p
- GeForce 940M เร็วกว่า 18% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro 560X เร็วกว่า 850%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GeForce 940M เร็วกว่า 73%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro 560X เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (96%)
- GeForce 940M เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (4%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 8.22 | 2.52 |
ความใหม่ล่าสุด | 16 กรกฎาคม 2018 | 13 มีนาคม 2015 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 28 nm |
Pro 560X มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 226.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
Radeon Pro 560X เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce 940M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 560X เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce 940M เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพาเช่นกัน