GeForce RTX 5060 Ti เทียบกับ RTX 3090 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3090 Ti และ GeForce RTX 5060 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3090 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 Ti อย่างมหาศาล 30% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 16 | 52 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 83 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 7.82 | 83.07 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.71 | 22.53 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 27 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 16 เมษายน 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,999 | $379 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3090 Ti อยู่ 962%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10752 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1560 MHz | 2407 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1860 MHz | 2572 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 625.0 | 370.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 40 TFLOPS | 23.7 TFLOPS |
ROPs | 112 | 48 |
TMUs | 336 | 144 |
Tensor Cores | 336 | 144 |
Ray Tracing Cores | 84 | 36 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 336 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 1750 MHz |
1,008 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.6 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 210
+25%
| 168
−25%
|
1440p | 142
+73.2%
| 82
−73.2%
|
4K | 101
+94.2%
| 52
−94.2%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 9.52
−322%
| 2.26
+322%
|
1440p | 14.08
−205%
| 4.62
+205%
|
4K | 19.79
−172%
| 7.29
+172%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
+14.1%
|
280−290
−14.1%
|
Cyberpunk 2077 | 219
+63.4%
|
130−140
−63.4%
|
Dead Island 2 | 290−300
+19.6%
|
250−260
−19.6%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 180−190
+15.7%
|
150−160
−15.7%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+14.1%
|
280−290
−14.1%
|
Cyberpunk 2077 | 201
+50%
|
130−140
−50%
|
Dead Island 2 | 290−300
+19.6%
|
250−260
−19.6%
|
Far Cry 5 | 200−210
−31.7%
|
270
+31.7%
|
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+36.2%
|
210−220
−36.2%
|
Forza Horizon 5 | 200
+21.2%
|
160−170
−21.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
+39.8%
|
290−300
−39.8%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 180−190
+15.7%
|
150−160
−15.7%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+14.1%
|
280−290
−14.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 173
+29.1%
|
130−140
−29.1%
|
Dead Island 2 | 290−300
+19.6%
|
250−260
−19.6%
|
Dota 2 | 217
+35.6%
|
160−170
−35.6%
|
Far Cry 5 | 200−210
−21%
|
248
+21%
|
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+36.2%
|
210−220
−36.2%
|
Forza Horizon 5 | 188
+13.9%
|
160−170
−13.9%
|
Grand Theft Auto V | 170
+9%
|
150−160
−9%
|
Metro Exodus | 178
+29.9%
|
130−140
−29.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 394
+18.7%
|
332
−18.7%
|
Valorant | 400−450
+39.8%
|
290−300
−39.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 180−190
+15.7%
|
150−160
−15.7%
|
Cyberpunk 2077 | 152
+13.4%
|
130−140
−13.4%
|
Dead Island 2 | 290−300
+19.6%
|
250−260
−19.6%
|
Dota 2 | 195
+30%
|
150−160
−30%
|
Far Cry 5 | 200−210
−13.2%
|
232
+13.2%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+36.2%
|
210−220
−36.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 193
+22.2%
|
158
−22.2%
|
Valorant | 400−450
+39.8%
|
290−300
−39.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 220−230
+42.3%
|
150−160
−42.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+29.6%
|
350−400
−29.6%
|
Grand Theft Auto V | 151
+30.2%
|
110−120
−30.2%
|
Metro Exodus | 125
+43.7%
|
85−90
−43.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+42.2%
|
300−350
−42.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 180−190
+39.8%
|
130−140
−39.8%
|
Cyberpunk 2077 | 104
+44.4%
|
70−75
−44.4%
|
Dead Island 2 | 180−190
+44.3%
|
130−140
−44.3%
|
Far Cry 5 | 180−190
+13.7%
|
161
−13.7%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+45.1%
|
170−180
−45.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 170−180
+49.6%
|
119
−49.6%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 100−105
+40.8%
|
70−75
−40.8%
|
Dead Island 2 | 85−90
+32.3%
|
65−70
−32.3%
|
Grand Theft Auto V | 181
+38.2%
|
130−140
−38.2%
|
Metro Exodus | 84
+52.7%
|
55−60
−52.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 173
+71.3%
|
101
−71.3%
|
Valorant | 300−350
+6.8%
|
300−350
−6.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+46.2%
|
90−95
−46.2%
|
Counter-Strike 2 | 100−105
+40.8%
|
70−75
−40.8%
|
Cyberpunk 2077 | 53
+55.9%
|
30−35
−55.9%
|
Dead Island 2 | 85−90
+50.9%
|
55−60
−50.9%
|
Dota 2 | 184
+31.4%
|
140−150
−31.4%
|
Far Cry 5 | 120−130
+45.2%
|
84
−45.2%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+68.5%
|
120−130
−68.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+1.1%
|
95−100
−1.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3090 Ti และ RTX 5060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3090 Ti เร็วกว่า 25% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3090 Ti เร็วกว่า 73% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3090 Ti เร็วกว่า 94% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3090 Ti เร็วกว่า 71%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 5060 Ti เร็วกว่า 32%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3090 Ti เหนือกว่าใน 52การทดสอบ (84%)
- RTX 5060 Ti เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- เสมอกันใน 7การทดสอบ (11%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 69.55 | 53.50 |
ความใหม่ล่าสุด | 27 มกราคม 2022 | 16 เมษายน 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 วัตต์ | 180 วัตต์ |
RTX 3090 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 30% และ
ในทางกลับกัน RTX 5060 Ti มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 150%
GeForce RTX 3090 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 5060 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ