GeForce RTX 5050 Mobile เทียบกับ MX130
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce MX130 และ GeForce RTX 5050 Mobile โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5050 Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า MX130 อย่างมหาศาลถึง 726% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 712 | 157 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.05 | 54.77 |
| สถาปัตยกรรม | Maxwell (2014−2017) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | GM108 | GB207 |
| ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 17 พฤศจิกายน 2017 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 24 มิถุนายน 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 2560 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1122 MHz | 1020 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1242 MHz | 1500 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 16,900 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 50 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 29.81 | 120.0 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.9539 TFLOPS | 7.68 TFLOPS |
| ROPs | 8 | 32 |
| TMUs | 24 | 80 |
| Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
| Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 20 |
| L1 Cache | 192 เคบี | 2.5 เอ็มบี |
| L2 Cache | 1024 เคบี | 32 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | medium sized |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 128 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1253 MHz | 1500 MHz |
| 40.1 จีบี/s | 384.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| Optimus | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 1.2 | 3.0 |
| Vulkan | 1.1.126 | 1.4 |
| CUDA | + | 12.0 |
| DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 17
−335%
| 74
+335%
|
| 1440p | 5−6
−740%
| 42
+740%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 27
−644%
|
200−210
+644%
|
| Cyberpunk 2077 | 4
−1975%
|
80−85
+1975%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 16−18
−641%
|
120−130
+641%
|
| Counter-Strike 2 | 20
−905%
|
200−210
+905%
|
| Cyberpunk 2077 | 9−10
−822%
|
80−85
+822%
|
| Escape from Tarkov | 16−18
−600%
|
110−120
+600%
|
| Far Cry 5 | 14
−729%
|
110−120
+729%
|
| Fortnite | 32
−394%
|
150−160
+394%
|
| Forza Horizon 4 | 21−24
−562%
|
130−140
+562%
|
| Forza Horizon 5 | 15
−660%
|
110−120
+660%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 23
−522%
|
140−150
+522%
|
| Valorant | 55−60
−277%
|
210−220
+277%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 16−18
−641%
|
120−130
+641%
|
| Counter-Strike 2 | 12
−1575%
|
200−210
+1575%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 75−80
−261%
|
270−280
+261%
|
| Cyberpunk 2077 | 9−10
−822%
|
80−85
+822%
|
| Dota 2 | 35
−700%
|
280−290
+700%
|
| Escape from Tarkov | 16−18
−600%
|
110−120
+600%
|
| Far Cry 5 | 13
−792%
|
110−120
+792%
|
| Fortnite | 24
−558%
|
150−160
+558%
|
| Forza Horizon 4 | 21−24
−562%
|
130−140
+562%
|
| Forza Horizon 5 | 12−14
−850%
|
110−120
+850%
|
| Grand Theft Auto V | 15
−827%
|
139
+827%
|
| Metro Exodus | 3
−2733%
|
85−90
+2733%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21
−581%
|
140−150
+581%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 14
−786%
|
120−130
+786%
|
| Valorant | 55−60
−277%
|
210−220
+277%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 16−18
−641%
|
120−130
+641%
|
| Cyberpunk 2077 | 9−10
−822%
|
80−85
+822%
|
| Dota 2 | 28
−721%
|
230−240
+721%
|
| Escape from Tarkov | 16−18
−600%
|
110−120
+600%
|
| Far Cry 5 | 12
−867%
|
110−120
+867%
|
| Forza Horizon 4 | 21−24
−562%
|
130−140
+562%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14
−921%
|
140−150
+921%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 7
−1671%
|
120−130
+1671%
|
| Valorant | 55−60
−689%
|
450−500
+689%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 16
−888%
|
150−160
+888%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 9−10
−878%
|
85−90
+878%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 30−35
−664%
|
250−260
+664%
|
| Grand Theft Auto V | 3−4
−3033%
|
94
+3033%
|
| Metro Exodus | 3−4
−1633%
|
50−55
+1633%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−718%
|
270−280
+718%
|
| Valorant | 45−50
−428%
|
240−250
+428%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 2−3
−4600%
|
90−95
+4600%
|
| Cyberpunk 2077 | 3−4
−1267%
|
40−45
+1267%
|
| Escape from Tarkov | 8−9
−975%
|
85−90
+975%
|
| Far Cry 5 | 8−9
−975%
|
85−90
+975%
|
| Forza Horizon 4 | 10−11
−910%
|
100−110
+910%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−1000%
|
65−70
+1000%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 8−9
−1075%
|
90−95
+1075%
|
4K
High
| Grand Theft Auto V | 16−18
−381%
|
75−80
+381%
|
| Valorant | 21−24
−900%
|
220−230
+900%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 1−2
−5600%
|
55−60
+5600%
|
| Cyberpunk 2077 | 1−2
−1700%
|
18−20
+1700%
|
| Dota 2 | 14−16
−700%
|
120−130
+700%
|
| Escape from Tarkov | 3−4
−1333%
|
40−45
+1333%
|
| Far Cry 5 | 3−4
−1433%
|
45−50
+1433%
|
| Forza Horizon 4 | 6−7
−1017%
|
65−70
+1017%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 5−6
−820%
|
45−50
+820%
|
4K
Epic
| Fortnite | 5−6
−820%
|
45−50
+820%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 40−45
+0%
|
40−45
+0%
|
| Metro Exodus | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+0%
|
55−60
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce MX130 และ RTX 5050 Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 335% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 740% ในความละเอียด 1440p
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 5600%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5050 Mobile เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 4.26 | 35.18 |
| ความใหม่ล่าสุด | 17 พฤศจิกายน 2017 | 24 มิถุนายน 2025 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GeForce MX130 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 66.7%
ในทางกลับกัน RTX 5050 Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 725.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 460%
GeForce RTX 5050 Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX130 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
