GeForce RTX 3070 Ti เทียบกับ GTX 1660
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 และ GeForce RTX 3070 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 อย่างมหาศาลถึง 101% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 194 | 35 |
จัดอันดับตามความนิยม | 44 | 87 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 47.07 | 52.73 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.34 | 14.44 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | GA104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 มีนาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $219 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 อยู่ 12%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1530 MHz | 1575 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1785 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 290 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 157.1 | 339.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.027 TFLOPS | 21.75 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 88 | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 192 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2001 MHz | 1188 MHz |
192.1 จีบี/s | 608.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | 7.5 | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 showcase-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 86
−106%
| 177
+106%
|
1440p | 52
−78.8%
| 93
+78.8%
|
4K | 29
−107%
| 60
+107%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.55
+32.9%
| 3.38
−32.9%
|
1440p | 4.21
+52.9%
| 6.44
−52.9%
|
4K | 7.55
+32.2%
| 9.98
−32.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 111
−58.6%
|
170−180
+58.6%
|
Counter-Strike 2 | 72
−168%
|
193
+168%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−151%
|
178
+151%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 83
−112%
|
170−180
+112%
|
Battlefield 5 | 100−110
−51.4%
|
160−170
+51.4%
|
Counter-Strike 2 | 56
−171%
|
152
+171%
|
Cyberpunk 2077 | 58
−143%
|
141
+143%
|
Far Cry 5 | 100
−105%
|
205
+105%
|
Fortnite | 130−140
−91.7%
|
250−260
+91.7%
|
Forza Horizon 4 | 132
−65.2%
|
210−220
+65.2%
|
Forza Horizon 5 | 86
−144%
|
210
+144%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
Valorant | 306
−1.3%
|
300−350
+1.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 49
−259%
|
170−180
+259%
|
Battlefield 5 | 100−110
−51.4%
|
160−170
+51.4%
|
Counter-Strike 2 | 48
−173%
|
131
+173%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−2.6%
|
270−280
+2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 47
−164%
|
124
+164%
|
Dota 2 | 219
−13.7%
|
249
+13.7%
|
Far Cry 5 | 92
−113%
|
196
+113%
|
Fortnite | 130−140
−91.7%
|
250−260
+91.7%
|
Forza Horizon 4 | 123
−77.2%
|
210−220
+77.2%
|
Forza Horizon 5 | 63
−211%
|
196
+211%
|
Grand Theft Auto V | 115
−50.4%
|
173
+50.4%
|
Metro Exodus | 57
−154%
|
145
+154%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 102
−186%
|
292
+186%
|
Valorant | 287
−8%
|
300−350
+8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−51.4%
|
160−170
+51.4%
|
Counter-Strike 2 | 43
−165%
|
114
+165%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−183%
|
113
+183%
|
Dota 2 | 197
−16.8%
|
230
+16.8%
|
Far Cry 5 | 86
−113%
|
183
+113%
|
Forza Horizon 4 | 98
−122%
|
210−220
+122%
|
Forza Horizon 5 | 59
−86.4%
|
110−120
+86.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−158%
|
147
+158%
|
Valorant | 115
−170%
|
300−350
+170%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−91.7%
|
250−260
+91.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−84.6%
|
45−50
+84.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 190−200
−108%
|
400−450
+108%
|
Grand Theft Auto V | 52
−163%
|
137
+163%
|
Metro Exodus | 33
−170%
|
89
+170%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Valorant | 226
−56.2%
|
350−400
+56.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−79.2%
|
130−140
+79.2%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−204%
|
73
+204%
|
Far Cry 5 | 59
−154%
|
150
+154%
|
Forza Horizon 4 | 76
−138%
|
180−190
+138%
|
Forza Horizon 5 | 40
−100%
|
80−85
+100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−153%
|
120−130
+153%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−116%
|
150−160
+116%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 21−24
−113%
|
45−50
+113%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−162%
|
30−35
+162%
|
Grand Theft Auto V | 49
−200%
|
147
+200%
|
Metro Exodus | 20
−180%
|
56
+180%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−211%
|
109
+211%
|
Valorant | 125
−153%
|
300−350
+153%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−120%
|
95−100
+120%
|
Counter-Strike 2 | 6
−167%
|
16
+167%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−250%
|
35
+250%
|
Dota 2 | 87
−123%
|
194
+123%
|
Far Cry 5 | 30
−173%
|
82
+173%
|
Forza Horizon 4 | 50
−164%
|
130−140
+164%
|
Forza Horizon 5 | 22
−81.8%
|
40−45
+81.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−200%
|
95−100
+200%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−139%
|
75−80
+139%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 และ RTX 3070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 106% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 79% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 107% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3070 Ti เร็วกว่า 259%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3070 Ti เหนือกว่า GTX 1660 ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.26 | 60.93 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 มีนาคม 2019 | 31 พฤษภาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 290 วัตต์ |
GTX 1660 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 141.7%
ในทางกลับกัน RTX 3070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 101.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
GeForce RTX 3070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 ในการทดสอบประสิทธิภาพ