Radeon 660M เทียบกับ GeForce 940MX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce 940MX และ Radeon 660M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
660M มีประสิทธิภาพดีกว่า 940MX อย่างน่าประทับใจ 75% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 708 | 568 |
จัดอันดับตามความนิยม | 81 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.79 | 11.85 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell (2014−2017) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GM107 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 28 มิถุนายน 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 512 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 795 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 861 MHz | 1900 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,870 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 23 Watt | 40 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 27.55 | 45.60 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.8817 TFLOPS | 1.459 TFLOPS |
ROPs | 8 | 16 |
TMUs | 32 | 24 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 6 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | DDR3, GDDR5 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1253 MHz | System Shared |
40.1 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GPU Boost | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
Optimus | + | - |
GameWorks | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.7 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.3 |
CUDA | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 18
−38.9%
| 25
+38.9%
|
4K | 10
−60%
| 16−18
+60%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 9−10
−222%
|
29
+222%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−30%
|
12−14
+30%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−200%
|
24
+200%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 9−10
−156%
|
23
+156%
|
Battlefield 5 | 16
−75%
|
27−30
+75%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−30%
|
12−14
+30%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−150%
|
20
+150%
|
Far Cry 5 | 12
−150%
|
30
+150%
|
Fortnite | 44
+12.8%
|
35−40
−12.8%
|
Forza Horizon 4 | 18
−61.1%
|
27−30
+61.1%
|
Forza Horizon 5 | 7−8
−329%
|
30
+329%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 15
−60%
|
24−27
+60%
|
Valorant | 50−55
−36.5%
|
70−75
+36.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 9−10
−44.4%
|
13
+44.4%
|
Battlefield 5 | 13
−115%
|
27−30
+115%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−10%
|
11
+10%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 58
−82.8%
|
100−110
+82.8%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−75%
|
14
+75%
|
Dota 2 | 48
−16.7%
|
56
+16.7%
|
Far Cry 5 | 12
−117%
|
26
+117%
|
Fortnite | 13
−200%
|
35−40
+200%
|
Forza Horizon 4 | 14
−107%
|
27−30
+107%
|
Forza Horizon 5 | 7−8
−114%
|
14−16
+114%
|
Grand Theft Auto V | 13
−92.3%
|
25
+92.3%
|
Metro Exodus | 7−8
−114%
|
15
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14
−71.4%
|
24−27
+71.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12
−117%
|
26
+117%
|
Valorant | 50−55
−36.5%
|
70−75
+36.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 11
−155%
|
27−30
+155%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−30%
|
12−14
+30%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−62.5%
|
12−14
+62.5%
|
Dota 2 | 46
−4.3%
|
48
+4.3%
|
Far Cry 5 | 11
−127%
|
25
+127%
|
Forza Horizon 4 | 12
−142%
|
27−30
+142%
|
Forza Horizon 5 | 7−8
−114%
|
14−16
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9
−167%
|
24−27
+167%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 7
−114%
|
15
+114%
|
Valorant | 50−55
−36.5%
|
70−75
+36.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 10
−290%
|
35−40
+290%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 27−30
−78.6%
|
50−55
+78.6%
|
Grand Theft Auto V | 3−4
−167%
|
8−9
+167%
|
Metro Exodus | 2−3
−200%
|
6−7
+200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−40.7%
|
35−40
+40.7%
|
Valorant | 35−40
−87.2%
|
70−75
+87.2%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 5−6
−80%
|
9−10
+80%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−66.7%
|
5−6
+66.7%
|
Far Cry 5 | 7−8
−85.7%
|
12−14
+85.7%
|
Forza Horizon 4 | 9−10
−66.7%
|
14−16
+66.7%
|
Forza Horizon 5 | 5−6
−120%
|
10−12
+120%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−66.7%
|
10−11
+66.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 7−8
−85.7%
|
12−14
+85.7%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 3−4
−66.7%
|
5−6
+66.7%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−12.5%
|
18−20
+12.5%
|
Valorant | 18−20
−73.7%
|
30−35
+73.7%
|
4K
Ultra Preset
Cyberpunk 2077 | 1−2
−100%
|
2−3
+100%
|
Dota 2 | 12−14
−91.7%
|
21−24
+91.7%
|
Far Cry 5 | 4−5
−75%
|
7−8
+75%
|
Forza Horizon 4 | 4−5
−150%
|
10−11
+150%
|
Forza Horizon 5 | 1−2
−300%
|
4−5
+300%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 4−5
−50%
|
6−7
+50%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 4−5
−50%
|
6−7
+50%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−12
+0%
|
10−12
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 1−2
+0%
|
1−2
+0%
|
Metro Exodus | 1−2
+0%
|
1−2
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 4−5
+0%
|
4−5
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 5−6
+0%
|
5−6
+0%
|
Counter-Strike 2 | 1−2
+0%
|
1−2
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce 940MX และ Radeon 660M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Radeon 660M เร็วกว่า 39% ในความละเอียด 1080p
- Radeon 660M เร็วกว่า 60% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GeForce 940MX เร็วกว่า 13%
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ Radeon 660M เร็วกว่า 329%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GeForce 940MX เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (1%)
- Radeon 660M เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (90%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (9%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 3.89 | 6.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 28 มิถุนายน 2016 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 23 วัตต์ | 40 วัตต์ |
GeForce 940MX มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 73.9%
ในทางกลับกัน Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 74.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 366.7%
Radeon 660M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce 940MX ในการทดสอบประสิทธิภาพ