GeForce RTX 4070 เทียบกับ Radeon RX 6500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6500M กับ GeForce RTX 4070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6500M อย่างมหาศาลถึง 252% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 286 | 24 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 36 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 60.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 27.41 | 24.11 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 24 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2000 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2400 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,400 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 153.6 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.915 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 64 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | 16 | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x4 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 240 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 1313 MHz |
144.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 64
−236%
| 215
+236%
|
1440p | 30−35
−303%
| 121
+303%
|
4K | 18−21
−306%
| 73
+306%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.79 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.95 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
−540%
|
320
+540%
|
Counter-Strike 2 | 45
−269%
|
160−170
+269%
|
Cyberpunk 2077 | 66
−227%
|
216
+227%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
−400%
|
250
+400%
|
Battlefield 5 | 75−80
−123%
|
170−180
+123%
|
Counter-Strike 2 | 39
−326%
|
160−170
+326%
|
Cyberpunk 2077 | 67
−160%
|
174
+160%
|
Far Cry 5 | 75
−180%
|
210
+180%
|
Fortnite | 95−100
−205%
|
300−350
+205%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−237%
|
250−260
+237%
|
Forza Horizon 5 | 68
−178%
|
180−190
+178%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−153%
|
170−180
+153%
|
Valorant | 140−150
−159%
|
350−400
+159%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
−196%
|
148
+196%
|
Battlefield 5 | 75−80
−123%
|
170−180
+123%
|
Counter-Strike 2 | 28
−493%
|
160−170
+493%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−21.9%
|
270−280
+21.9%
|
Cyberpunk 2077 | 32
−347%
|
143
+347%
|
Dota 2 | 102
−243%
|
350−400
+243%
|
Far Cry 5 | 71
−187%
|
204
+187%
|
Fortnite | 95−100
−205%
|
300−350
+205%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−237%
|
250−260
+237%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−263%
|
180−190
+263%
|
Grand Theft Auto V | 69
−152%
|
174
+152%
|
Metro Exodus | 50
−236%
|
168
+236%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−153%
|
170−180
+153%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−516%
|
351
+516%
|
Valorant | 140−150
−159%
|
350−400
+159%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−123%
|
170−180
+123%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−374%
|
160−170
+374%
|
Cyberpunk 2077 | 29
−341%
|
128
+341%
|
Dota 2 | 95
−216%
|
300−310
+216%
|
Far Cry 5 | 66
−186%
|
189
+186%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−237%
|
250−260
+237%
|
Forza Horizon 5 | 43
−249%
|
150−160
+249%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−153%
|
170−180
+153%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 39
−336%
|
170
+336%
|
Valorant | 140−150
−159%
|
350−400
+159%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 95−100
−205%
|
300−350
+205%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−269%
|
450−500
+269%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−328%
|
137
+328%
|
Metro Exodus | 24−27
−333%
|
104
+333%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.9%
|
170−180
+2.9%
|
Valorant | 170−180
−151%
|
400−450
+151%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−208%
|
160−170
+208%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−250%
|
70−75
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−376%
|
81
+376%
|
Far Cry 5 | 40−45
−307%
|
171
+307%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−368%
|
220−230
+368%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−224%
|
110−120
+224%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−33
−410%
|
150−160
+410%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−251%
|
150−160
+251%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−300%
|
60−65
+300%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−400%
|
45−50
+400%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−329%
|
146
+329%
|
Metro Exodus | 14−16
−333%
|
65
+333%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−326%
|
115
+326%
|
Valorant | 100−110
−212%
|
300−350
+212%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−325%
|
110−120
+325%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−400%
|
45−50
+400%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−414%
|
36
+414%
|
Dota 2 | 60−65
−244%
|
220−230
+244%
|
Far Cry 5 | 20−22
−365%
|
93
+365%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−421%
|
170−180
+421%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−224%
|
55−60
+224%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18−20
−433%
|
95−100
+433%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−316%
|
75−80
+316%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
+0%
|
60−65
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6500M และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 236% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 303% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 306% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 540%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 19.66 | 69.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 มกราคม 2022 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 200 วัตต์ |
RX 6500M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 251.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 6500M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป