Radeon R5 (Stoney Ridge) เทียบกับ RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 กับ Radeon R5 (Stoney Ridge) รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 580 มีประสิทธิภาพดีกว่า R5 (Stoney Ridge) อย่างมหาศาลถึง 1472% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 251 | 996 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.67 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.51 | 2.23 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | GCN 1.2/2.0 (2015−2016) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Stoney Ridge |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 1 มิถุนายน 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 192 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 800 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 12-45 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | ไม่มีข้อมูล |
ROPs | 32 | ไม่มีข้อมูล |
TMUs | 144 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | ไม่มีข้อมูล |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | ไม่มีข้อมูล |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | ไม่มีข้อมูล |
256.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (FL 12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | ไม่มีข้อมูล |
OpenGL | 4.6 | ไม่มีข้อมูล |
OpenCL | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
Vulkan | 1.2.131 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 97
+1113%
| 8
−1113%
|
1440p | 43
+2050%
| 2−3
−2050%
|
4K | 37
+1750%
| 2−3
−1750%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.36 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.33 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 6.19 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
+1350%
|
4−5
−1350%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+413%
|
8−9
−413%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1433%
|
3−4
−1433%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
+1350%
|
4−5
−1350%
|
Battlefield 5 | 124
+6100%
|
2−3
−6100%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+413%
|
8−9
−413%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1433%
|
3−4
−1433%
|
Far Cry 5 | 83
+8200%
|
1
−8200%
|
Fortnite | 153
+2086%
|
7
−2086%
|
Forza Horizon 4 | 108
+2060%
|
5
−2060%
|
Forza Horizon 5 | 60−65 | 0−1 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
+844%
|
9−10
−844%
|
Valorant | 150−160
+340%
|
35−40
−340%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
+1350%
|
4−5
−1350%
|
Battlefield 5 | 102
+5000%
|
2−3
−5000%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+413%
|
8−9
−413%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+690%
|
30−35
−690%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1433%
|
3−4
−1433%
|
Dota 2 | 110−120
+544%
|
18−20
−544%
|
Far Cry 5 | 76
+1800%
|
4−5
−1800%
|
Fortnite | 106
+2550%
|
4−5
−2550%
|
Forza Horizon 4 | 101
+1343%
|
7−8
−1343%
|
Forza Horizon 5 | 60−65 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 77
+7600%
|
1−2
−7600%
|
Metro Exodus | 48
+4700%
|
1
−4700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
+678%
|
9−10
−678%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+1100%
|
6−7
−1100%
|
Valorant | 150−160
+340%
|
35−40
−340%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 93
+4550%
|
2−3
−4550%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+413%
|
8−9
−413%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1433%
|
3−4
−1433%
|
Dota 2 | 110−120
+544%
|
18−20
−544%
|
Far Cry 5 | 71
+1675%
|
4−5
−1675%
|
Forza Horizon 4 | 82
+1071%
|
7−8
−1071%
|
Forza Horizon 5 | 60−65 | 0−1 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
+444%
|
9−10
−444%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+633%
|
6−7
−633%
|
Valorant | 150−160
+340%
|
35−40
−340%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 80
+1900%
|
4−5
−1900%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+2100%
|
1−2
−2100%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
+1611%
|
9−10
−1611%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+1800%
|
2−3
−1800%
|
Metro Exodus | 28
+2700%
|
1−2
−2700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+1833%
|
9−10
−1833%
|
Valorant | 190−200
+3117%
|
6−7
−3117%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+1933%
|
3−4
−1933%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+2000%
|
1−2
−2000%
|
Far Cry 5 | 45−50
+4800%
|
1−2
−4800%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+1733%
|
3−4
−1733%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+1850%
|
2−3
−1850%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+1650%
|
2−3
−1650%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+2450%
|
2−3
−2450%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+1600%
|
1−2
−1600%
|
Counter-Strike 2 | 10−11 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 57
+280%
|
14−16
−280%
|
Metro Exodus | 18
+1700%
|
1−2
−1700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
+2600%
|
1−2
−2600%
|
Valorant | 120−130
+1671%
|
7−8
−1671%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
+1750%
|
2−3
−1750%
|
Counter-Strike 2 | 10−11 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 9−10 | 0−1 |
Dota 2 | 70−75
+7100%
|
1−2
−7100%
|
Far Cry 5 | 26
+1200%
|
2−3
−1200%
|
Forza Horizon 4 | 41
+1950%
|
2−3
−1950%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
+1900%
|
1−2
−1900%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18
+800%
|
2−3
−800%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+1050%
|
2−3
−1050%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 1−2
+0%
|
1−2
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ R5 (Stoney Ridge) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เร็วกว่า 1113% ในความละเอียด 1080p
- RX 580 เร็วกว่า 2050% ในความละเอียด 1440p
- RX 580 เร็วกว่า 1750% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 8200%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 49การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.95 | 1.46 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 1 มิถุนายน 2016 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 12 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1471.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 10 เดือนและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
ในทางกลับกัน R5 (Stoney Ridge) มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1441.7%
Radeon RX 580 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon R5 (Stoney Ridge) ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 580 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon R5 (Stoney Ridge) เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก