GeForce RTX 3080 12 GB เทียบกับ Radeon RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 และ GeForce RTX 3080 12 GB โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 12 GB มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 580 อย่างมหาศาลถึง 201% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 244 | 25 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.25 | 41.03 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.61 | 13.71 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GA102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 11 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3080 12 GB มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 580 อยู่ 125%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 1260 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 350 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 478.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 30.64 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 144 | 280 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 280 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 285 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1188 MHz |
256.0 จีบี/s | 912.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | - | 8.6 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
−93.8%
| 186
+93.8%
|
1440p | 44
−170%
| 119
+170%
|
4K | 38
−129%
| 87
+129%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.39
−80.1%
| 4.30
+80.1%
|
1440p | 5.20
−29%
| 6.71
+29%
|
4K | 6.03
−52.4%
| 9.18
+52.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 35−40
−262%
|
130−140
+262%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 58
−145%
|
140−150
+145%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−218%
|
120−130
+218%
|
Battlefield 5 | 138
−60.1%
|
220−230
+60.1%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−153%
|
110−120
+153%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−262%
|
130−140
+262%
|
Far Cry 5 | 83
−41%
|
110−120
+41%
|
Far Cry New Dawn | 83
−104%
|
160−170
+104%
|
Forza Horizon 4 | 294
+24.1%
|
230−240
−24.1%
|
Hitman 3 | 45−50
−180%
|
120−130
+180%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−133%
|
250−260
+133%
|
Metro Exodus | 111
−39.6%
|
150−160
+39.6%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−102%
|
120−130
+102%
|
Shadow of the Tomb Raider | 122
−138%
|
290−300
+138%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
−53.5%
|
150−160
+53.5%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 101
−40.6%
|
140−150
+40.6%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−218%
|
120−130
+218%
|
Battlefield 5 | 113
−95.6%
|
220−230
+95.6%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−153%
|
110−120
+153%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−262%
|
130−140
+262%
|
Far Cry 5 | 69
−69.6%
|
110−120
+69.6%
|
Far Cry New Dawn | 64
−164%
|
160−170
+164%
|
Forza Horizon 4 | 270
+13.9%
|
230−240
−13.9%
|
Hitman 3 | 45−50
−180%
|
120−130
+180%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−133%
|
250−260
+133%
|
Metro Exodus | 87
−78.2%
|
150−160
+78.2%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−102%
|
120−130
+102%
|
Shadow of the Tomb Raider | 75−80
−362%
|
356
+362%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−196%
|
140−150
+196%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
−53.5%
|
150−160
+53.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 34
−318%
|
140−150
+318%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−218%
|
120−130
+218%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−153%
|
110−120
+153%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−262%
|
130−140
+262%
|
Far Cry 5 | 49
−139%
|
110−120
+139%
|
Forza Horizon 4 | 82
−189%
|
230−240
+189%
|
Hitman 3 | 45−50
−180%
|
120−130
+180%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−144%
|
263
+144%
|
Shadow of the Tomb Raider | 75−80
−308%
|
314
+308%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−275%
|
165
+275%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
+4.2%
|
95
−4.2%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−102%
|
120−130
+102%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 40−45
−275%
|
160−170
+275%
|
Far Cry New Dawn | 35−40
−214%
|
110−120
+214%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 24−27
−238%
|
80−85
+238%
|
Assassin's Creed Valhalla | 21−24
−300%
|
85−90
+300%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 24−27
−212%
|
80−85
+212%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−421%
|
70−75
+421%
|
Far Cry 5 | 24−27
−212%
|
80−85
+212%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
−108%
|
270−280
+108%
|
Hitman 3 | 27−30
−274%
|
100−110
+274%
|
Horizon Zero Dawn | 45−50
−338%
|
206
+338%
|
Metro Exodus | 53
−119%
|
116
+119%
|
Shadow of the Tomb Raider | 45−50
−382%
|
236
+382%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−343%
|
120−130
+343%
|
Watch Dogs: Legion | 130−140
−81.1%
|
230−240
+81.1%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 35−40
−200%
|
110−120
+200%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 37
−135%
|
85−90
+135%
|
Far Cry New Dawn | 22
−214%
|
65−70
+214%
|
Hitman 3 | 18−20
−333%
|
78
+333%
|
Horizon Zero Dawn | 110−120
−89.9%
|
220−230
+89.9%
|
Metro Exodus | 33
−230%
|
100−110
+230%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
−389%
|
132
+389%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 18
−217%
|
55−60
+217%
|
Assassin's Creed Valhalla | 12−14
−350%
|
50−55
+350%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 12−14
−292%
|
50−55
+292%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−580%
|
30−35
+580%
|
Far Cry 5 | 16
−213%
|
50−55
+213%
|
Forza Horizon 4 | 41
−190%
|
110−120
+190%
|
Shadow of the Tomb Raider | 27−30
−426%
|
142
+426%
|
Watch Dogs: Legion | 10−11
−450%
|
55
+450%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 20−22
−270%
|
70−75
+270%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ RTX 3080 12 GB แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 94% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 170% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 129% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 24%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 580%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (4%)
- RTX 3080 12 GB เหนือกว่าใน 69การทดสอบ (96%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.00 | 69.27 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 11 มกราคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 350 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 89.2%
ในทางกลับกัน RTX 3080 12 GB มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 201.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 75%
GeForce RTX 3080 12 GB เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ