GeForce RTX 3060 Ti เทียบกับ Radeon RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 และ GeForce RTX 3060 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 580 อย่างมหาศาลถึง 131% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 244 | 49 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | 26 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.25 | 68.64 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.60 | 18.37 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GA104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 1 ธันวาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $399 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 580 อยู่ 276%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 4864 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 1410 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 1665 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 253.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 16.2 TFLOPS |
ROPs | 32 | 80 |
TMUs | 144 | 152 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 152 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 38 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 242 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1750 MHz |
256.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | - | 8.6 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
−47.9%
| 142
+47.9%
|
1440p | 44
−77.3%
| 78
+77.3%
|
4K | 38
−28.9%
| 49
+28.9%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.39
−17.8%
| 2.81
+17.8%
|
1440p | 5.20
+1.7%
| 5.12
−1.7%
|
4K | 6.03
−35.1%
| 8.14
+35.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 35−40
−124%
|
83
+124%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 58
−109%
|
121
+109%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−144%
|
95
+144%
|
Battlefield 5 | 138
−22.5%
|
160−170
+22.5%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−119%
|
100−110
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−119%
|
81
+119%
|
Far Cry 5 | 83
−26.5%
|
100−110
+26.5%
|
Far Cry New Dawn | 83
−55.4%
|
120−130
+55.4%
|
Forza Horizon 4 | 294
+34.9%
|
210−220
−34.9%
|
Hitman 3 | 45−50
−143%
|
110−120
+143%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−90.7%
|
200−210
+90.7%
|
Metro Exodus | 111
−34.2%
|
140−150
+34.2%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−83.3%
|
110−120
+83.3%
|
Shadow of the Tomb Raider | 122
−71.3%
|
200−210
+71.3%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
−45.5%
|
140−150
+45.5%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 101
−94.1%
|
196
+94.1%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−108%
|
81
+108%
|
Battlefield 5 | 113
−49.6%
|
160−170
+49.6%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−119%
|
100−110
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−111%
|
78
+111%
|
Far Cry 5 | 69
−52.2%
|
100−110
+52.2%
|
Far Cry New Dawn | 64
−102%
|
120−130
+102%
|
Forza Horizon 4 | 270
+23.9%
|
210−220
−23.9%
|
Hitman 3 | 45−50
−143%
|
110−120
+143%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−90.7%
|
200−210
+90.7%
|
Metro Exodus | 87
−71.3%
|
140−150
+71.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−83.3%
|
110−120
+83.3%
|
Shadow of the Tomb Raider | 75−80
−149%
|
192
+149%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−120%
|
110−120
+120%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
−45.5%
|
140−150
+45.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 34
−121%
|
75
+121%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−89.7%
|
74
+89.7%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−119%
|
100−110
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−108%
|
77
+108%
|
Far Cry 5 | 49
−114%
|
100−110
+114%
|
Forza Horizon 4 | 82
−111%
|
173
+111%
|
Hitman 3 | 45−50
−143%
|
110−120
+143%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−29.6%
|
140
+29.6%
|
Shadow of the Tomb Raider | 75−80
−126%
|
174
+126%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−109%
|
92
+109%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
+28.6%
|
77
−28.6%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−83.3%
|
110−120
+83.3%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 40−45
−150%
|
110−120
+150%
|
Far Cry New Dawn | 35−40
−134%
|
80−85
+134%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 24−27
−171%
|
65
+171%
|
Assassin's Creed Valhalla | 21−24
−173%
|
60
+173%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 24−27
−142%
|
60−65
+142%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−271%
|
52
+271%
|
Far Cry 5 | 24−27
−138%
|
60−65
+138%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
−104%
|
260−270
+104%
|
Hitman 3 | 27−30
−174%
|
70−75
+174%
|
Horizon Zero Dawn | 45−50
−143%
|
114
+143%
|
Metro Exodus | 53
−75.5%
|
93
+75.5%
|
Shadow of the Tomb Raider | 45−50
−184%
|
139
+184%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−211%
|
85−90
+211%
|
Watch Dogs: Legion | 130−140
−87.1%
|
247
+87.1%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 35−40
−139%
|
90−95
+139%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 37
−56.8%
|
55−60
+56.8%
|
Far Cry New Dawn | 22
−123%
|
45−50
+123%
|
Hitman 3 | 18−20
−217%
|
57
+217%
|
Horizon Zero Dawn | 110−120
−78.2%
|
210−220
+78.2%
|
Metro Exodus | 33
−127%
|
75−80
+127%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
−185%
|
77
+185%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 18
−150%
|
45
+150%
|
Assassin's Creed Valhalla | 12−14
−233%
|
40
+233%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 12−14
−185%
|
35−40
+185%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−400%
|
25
+400%
|
Far Cry 5 | 16
−113%
|
30−35
+113%
|
Forza Horizon 4 | 41
−151%
|
103
+151%
|
Shadow of the Tomb Raider | 27−30
−211%
|
84
+211%
|
Watch Dogs: Legion | 10−11
−230%
|
33
+230%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 20−22
−155%
|
50−55
+155%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ RTX 3060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 48% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 77% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 29% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 35%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3060 Ti เร็วกว่า 400%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (4%)
- RTX 3060 Ti เหนือกว่าใน 69การทดสอบ (96%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.00 | 53.14 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 1 ธันวาคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 200 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 8.1%
ในทางกลับกัน RTX 3060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 131% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 75%
GeForce RTX 3060 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ