GeForce GTX 470 เทียบกับ Radeon RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 และ GeForce GTX 470 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 580 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 470 อย่างมหาศาลถึง 184% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 251 | 524 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.58 | 1.35 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.56 | 2.59 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Fermi (2010−2014) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GF100 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 26 มีนาคม 2010 (เมื่อ 14 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $349 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 580 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 470 อยู่ 1202%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 448 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 607 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | ไม่มีข้อมูล |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 3,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 40 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 215 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 105 °C |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 34.05 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 1.089 TFLOPS |
ROPs | 32 | 40 |
TMUs | 144 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | ไม่มีข้อมูล | 16x PCI-E 2.0 |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 2.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 241 mm |
ความสูง | ไม่มีข้อมูล | 11.1 ซม |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 6-pin |
ตัวเลือก SLI | - | + |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 1280 เอ็มบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 320 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1674 MHz (3348 data rate) |
256.0 จีบี/s | 133.9 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | Two Dual Link DVIMini HDMI |
รองรับหลายจอภาพ | ไม่มีข้อมูล | + |
HDMI | + | + |
ความละเอียด VGA สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 2048x1536 |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | ไม่มีข้อมูล | Internal |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (11_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 5.1 |
OpenGL | 4.6 | 4.2 |
OpenCL | 2.0 | 1.1 |
Vulkan | 1.2.131 | N/A |
CUDA | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 140−150
+169%
| 52
−169%
|
Full HD | 97
+49.2%
| 65
−49.2%
|
1200p | 150−160
+183%
| 53
−183%
|
1440p | 43
+207%
| 14−16
−207%
|
4K | 37
+208%
| 12−14
−208%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.36
+127%
| 5.37
−127%
|
1440p | 5.33
+368%
| 24.93
−368%
|
4K | 6.19
+370%
| 29.08
−370%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
+205%
|
18−20
−205%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+173%
|
14−16
−173%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+188%
|
16−18
−188%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
+205%
|
18−20
−205%
|
Battlefield 5 | 124
+276%
|
30−35
−276%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+173%
|
14−16
−173%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+188%
|
16−18
−188%
|
Far Cry 5 | 83
+246%
|
24−27
−246%
|
Fortnite | 153
+233%
|
45−50
−233%
|
Forza Horizon 4 | 108
+218%
|
30−35
−218%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+221%
|
18−20
−221%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
+215%
|
27−30
−215%
|
Valorant | 150−160
+94.9%
|
75−80
−94.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
+205%
|
18−20
−205%
|
Battlefield 5 | 102
+209%
|
30−35
−209%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+173%
|
14−16
−173%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+102%
|
120−130
−102%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+188%
|
16−18
−188%
|
Dota 2 | 110−120
+100%
|
55−60
−100%
|
Far Cry 5 | 76
+217%
|
24−27
−217%
|
Fortnite | 106
+130%
|
45−50
−130%
|
Forza Horizon 4 | 101
+197%
|
30−35
−197%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+221%
|
18−20
−221%
|
Grand Theft Auto V | 77
+175%
|
27−30
−175%
|
Metro Exodus | 48
+220%
|
14−16
−220%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
+159%
|
27−30
−159%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+260%
|
20−22
−260%
|
Valorant | 150−160
+94.9%
|
75−80
−94.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 93
+182%
|
30−35
−182%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+173%
|
14−16
−173%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+188%
|
16−18
−188%
|
Dota 2 | 110−120
+81.3%
|
64
−81.3%
|
Far Cry 5 | 71
+196%
|
24−27
−196%
|
Forza Horizon 4 | 82
+141%
|
30−35
−141%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+221%
|
18−20
−221%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
+81.5%
|
27−30
−81.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+120%
|
20−22
−120%
|
Valorant | 150−160
+94.9%
|
75−80
−94.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 80
+73.9%
|
45−50
−73.9%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+120%
|
10−11
−120%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
+166%
|
55−60
−166%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+280%
|
10−11
−280%
|
Metro Exodus | 28
+250%
|
8−9
−250%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+335%
|
40−45
−335%
|
Valorant | 190−200
+124%
|
85−90
−124%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+281%
|
16−18
−281%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+250%
|
6−7
−250%
|
Far Cry 5 | 45−50
+206%
|
16−18
−206%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+206%
|
18−20
−206%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+200%
|
12−14
−200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+192%
|
12−14
−192%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+240%
|
14−16
−240%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+183%
|
6−7
−183%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+400%
|
2−3
−400%
|
Grand Theft Auto V | 57
+217%
|
18−20
−217%
|
Metro Exodus | 18
+500%
|
3−4
−500%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
+286%
|
7−8
−286%
|
Valorant | 120−130
+218%
|
35−40
−218%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
+363%
|
8−9
−363%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+400%
|
2−3
−400%
|
Cyberpunk 2077 | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
Dota 2 | 70−75
+157%
|
27−30
−157%
|
Far Cry 5 | 26
+225%
|
8−9
−225%
|
Forza Horizon 4 | 41
+242%
|
12−14
−242%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
+300%
|
5−6
−300%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18
+157%
|
7−8
−157%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+229%
|
7−8
−229%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ GTX 470 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เร็วกว่า 169% ในความละเอียด 900p
- RX 580 เร็วกว่า 49% ในความละเอียด 1080p
- RX 580 เร็วกว่า 183% ในความละเอียด 1200p
- RX 580 เร็วกว่า 207% ในความละเอียด 1440p
- RX 580 เร็วกว่า 208% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 500%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 580 เหนือกว่า GTX 470 ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.71 | 8.00 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 26 มีนาคม 2010 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 1280 เอ็มบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 40 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 215 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 183.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 185.7%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16.2%
Radeon RX 580 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 470 ในการทดสอบประสิทธิภาพ