Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เทียบกับ RX 570
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 570 กับ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 570 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) อย่างมหาศาลถึง 102% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 315 | 497 |
จัดอันดับตามความนิยม | 16 | 31 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 15.08 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.36 | 41.02 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Vega |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $169 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1168 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1244 MHz | 2100 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 159.2 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.095 TFLOPS | ไม่มีข้อมูล |
ROPs | 32 | ไม่มีข้อมูล |
TMUs | 128 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | ไม่มีข้อมูล |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | ไม่มีข้อมูล |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | ไม่มีข้อมูล |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | ไม่มีข้อมูล |
224.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 3x DisplayPort | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12_1 |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | ไม่มีข้อมูล |
OpenGL | 4.6 | ไม่มีข้อมูล |
OpenCL | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
Vulkan | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 85
+286%
| 22
−286%
|
1440p | 48
+182%
| 17
−182%
|
4K | 30
+200%
| 10
−200%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.99 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 3.52 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 5.63 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
+83.3%
|
24
−83.3%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+138%
|
13
−138%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+100%
|
18
−100%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
+132%
|
19
−132%
|
Battlefield 5 | 88
+126%
|
39
−126%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+244%
|
9
−244%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+177%
|
13
−177%
|
Far Cry 5 | 77
+267%
|
21
−267%
|
Fortnite | 238
+406%
|
47
−406%
|
Forza Horizon 4 | 100
+170%
|
35−40
−170%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+124%
|
21
−124%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+220%
|
30−33
−220%
|
Valorant | 130−140
+58.3%
|
80−85
−58.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+300%
|
11
−300%
|
Battlefield 5 | 75
+127%
|
33
−127%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+244%
|
9
−244%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+350%
|
48
−350%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+300%
|
9
−300%
|
Dota 2 | 100−110
+98%
|
51
−98%
|
Far Cry 5 | 70
+250%
|
20
−250%
|
Fortnite | 95
+206%
|
31
−206%
|
Forza Horizon 4 | 94
+154%
|
35−40
−154%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+262%
|
13
−262%
|
Grand Theft Auto V | 73
+284%
|
19
−284%
|
Metro Exodus | 43
+169%
|
16
−169%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 87
+190%
|
30−33
−190%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+267%
|
21
−267%
|
Valorant | 130−140
+58.3%
|
80−85
−58.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
+127%
|
30
−127%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+93.8%
|
16−18
−93.8%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+300%
|
9
−300%
|
Dota 2 | 100−110
+110%
|
48
−110%
|
Far Cry 5 | 65
+242%
|
19
−242%
|
Forza Horizon 4 | 75
+103%
|
35−40
−103%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+236%
|
14
−236%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
+130%
|
30−33
−130%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
+207%
|
14
−207%
|
Valorant | 130−140
+259%
|
37
−259%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 72
+300%
|
18
−300%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
+111%
|
9−10
−111%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
+490%
|
21
−490%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
+211%
|
9
−211%
|
Metro Exodus | 25
+150%
|
10
−150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
+650%
|
22
−650%
|
Valorant | 160−170
+75.8%
|
95−100
−75.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 52
+148%
|
21
−148%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+220%
|
5
−220%
|
Far Cry 5 | 46
+188%
|
16
−188%
|
Forza Horizon 4 | 59
+195%
|
20−22
−195%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+108%
|
12−14
−108%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45
+165%
|
16−18
−165%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
+100%
|
7−8
−100%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
Grand Theft Auto V | 30
+200%
|
10
−200%
|
Metro Exodus | 16
+167%
|
6
−167%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 28
+250%
|
8−9
−250%
|
Valorant | 95−100
+121%
|
40−45
−121%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 31
+244%
|
9−10
−244%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+133%
|
3−4
−133%
|
Dota 2 | 55−60
+228%
|
18
−228%
|
Far Cry 5 | 24
+200%
|
8
−200%
|
Forza Horizon 4 | 39
+179%
|
14−16
−179%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+150%
|
6−7
−150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27
+238%
|
8−9
−238%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+188%
|
8−9
−188%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 10−12
+0%
|
10−12
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 570 และ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เร็วกว่า 286% ในความละเอียด 1080p
- RX 570 เร็วกว่า 182% ในความละเอียด 1440p
- RX 570 เร็วกว่า 200% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 570 เร็วกว่า 650%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.08 | 8.95 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 7 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RX 570 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 102%
ในทางกลับกัน RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 700%
Radeon RX 570 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 570 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก