Radeon Pro Vega 20 เทียบกับ RX 460
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 460 กับ Radeon Pro Vega 20 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro Vega 20 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 460 อย่างมาก 23% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 442 | 399 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.12 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.73 | 8.97 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | GCN 5.0 (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Baffin | Vega 12 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 8 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 14 พฤศจิกายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $86 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 896 | 1280 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1090 MHz | 815 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 1283 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,000 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 100 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 67.20 | 102.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.15 TFLOPS | 3.284 TFLOPS |
ROPs | 16 | 32 |
TMUs | 56 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 170 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | HBM2 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 1024 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 740 MHz |
112.0 จีบี/s | 189.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.3 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 41
−48.8%
| 61
+48.8%
|
1440p | 50
−20%
| 60−65
+20%
|
4K | 20
−105%
| 41
+105%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.10 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 1.72 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 4.30 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 24−27
−24%
|
30−35
+24%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−28.3%
|
65−70
+28.3%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−25%
|
24−27
+25%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 24−27
−24%
|
30−35
+24%
|
Battlefield 5 | 40−45
−68.2%
|
74
+68.2%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−28.3%
|
65−70
+28.3%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−25%
|
24−27
+25%
|
Far Cry 5 | 40
+0%
|
40
+0%
|
Fortnite | 116
+63.4%
|
70−75
−63.4%
|
Forza Horizon 4 | 57
+9.6%
|
50−55
−9.6%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−22.6%
|
35−40
+22.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 36
−22.2%
|
40−45
+22.2%
|
Valorant | 90−95
−13.8%
|
100−110
+13.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−24%
|
30−35
+24%
|
Battlefield 5 | 40−45
−43.2%
|
63
+43.2%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−28.3%
|
65−70
+28.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
−16.8%
|
170−180
+16.8%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−25%
|
24−27
+25%
|
Dota 2 | 70−75
−19.7%
|
85
+19.7%
|
Far Cry 5 | 37
+0%
|
37
+0%
|
Fortnite | 39
−82.1%
|
70−75
+82.1%
|
Forza Horizon 4 | 54
+3.8%
|
50−55
−3.8%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−22.6%
|
35−40
+22.6%
|
Grand Theft Auto V | 35
−34.3%
|
45−50
+34.3%
|
Metro Exodus | 21
−19%
|
24−27
+19%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 28
−57.1%
|
40−45
+57.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 37
−35.1%
|
50
+35.1%
|
Valorant | 90−95
−13.8%
|
100−110
+13.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−36.4%
|
60
+36.4%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−25%
|
24−27
+25%
|
Dota 2 | 70−75
−9.9%
|
78
+9.9%
|
Far Cry 5 | 34
−8.8%
|
37
+8.8%
|
Forza Horizon 4 | 41
−26.8%
|
50−55
+26.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20
−120%
|
40−45
+120%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 23
−34.8%
|
31
+34.8%
|
Valorant | 90−95
−13.8%
|
100−110
+13.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 31
−129%
|
70−75
+129%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
−27.8%
|
21−24
+27.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 75−80
−21.1%
|
90−95
+21.1%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
−35.7%
|
18−20
+35.7%
|
Metro Exodus | 10−12
−36.4%
|
14−16
+36.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50−55
−90.2%
|
95−100
+90.2%
|
Valorant | 110−120
−18%
|
130−140
+18%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−32%
|
30−35
+32%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−37.5%
|
10−12
+37.5%
|
Far Cry 5 | 21−24
−28.6%
|
27−30
+28.6%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−25%
|
30−33
+25%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
−18.8%
|
18−20
+18.8%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 21−24
−28.6%
|
27−30
+28.6%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 8−9
−25%
|
10−11
+25%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−75%
|
7−8
+75%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−14.3%
|
24−27
+14.3%
|
Metro Exodus | 6−7
−33.3%
|
8−9
+33.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12
−33.3%
|
16−18
+33.3%
|
Valorant | 50−55
−24.5%
|
65−70
+24.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 12−14
−41.7%
|
16−18
+41.7%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−75%
|
7−8
+75%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−33.3%
|
4−5
+33.3%
|
Dota 2 | 35−40
−13.9%
|
41
+13.9%
|
Far Cry 5 | 11
−18.2%
|
12−14
+18.2%
|
Forza Horizon 4 | 16−18
−23.5%
|
21−24
+23.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9−10
−33.3%
|
12−14
+33.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 9−10
−33.3%
|
12−14
+33.3%
|
นี่คือวิธีที่ RX 460 และ Pro Vega 20 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro Vega 20 เร็วกว่า 49% ในความละเอียด 1080p
- Pro Vega 20 เร็วกว่า 20% ในความละเอียด 1440p
- Pro Vega 20 เร็วกว่า 105% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 460 เร็วกว่า 63%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ Pro Vega 20 เร็วกว่า 129%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 460 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- Pro Vega 20 เหนือกว่าใน 58การทดสอบ (92%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.17 | 11.27 |
ความใหม่ล่าสุด | 8 สิงหาคม 2016 | 14 พฤศจิกายน 2018 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 4 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 100 วัตต์ |
RX 460 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 33.3%
ในทางกลับกัน Pro Vega 20 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 22.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และ
Radeon Pro Vega 20 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 460 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 460 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro Vega 20 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา