GeForce RTX 2070 Super Max-Q เทียบกับ HD Graphics 4400
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ HD Graphics 4400 และ GeForce RTX 2070 Super Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2070 Super Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า HD Graphics 4400 อย่างมหาศาลถึง 2502% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 1032 | 147 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 4.66 | 30.31 |
สถาปัตยกรรม | Generation 7.5 (2013) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Haswell GT2 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 กันยายน 2013 (เมื่อ 11 ปี ปีที่แล้ว) | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 160 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 200 MHz | 930 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 950 MHz | 1155 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 392 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 22 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 20 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 19.00 | 184.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.304 TFLOPS | 5.914 TFLOPS |
ROPs | 2 | 64 |
TMUs | 20 | 160 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | Ring Bus | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1375 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 352.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | No outputs |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
Quick Sync | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.3 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | + | 1.2.140 |
CUDA | - | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 12
−2400%
| 300−350
+2400%
|
Full HD | 10
−950%
| 105
+950%
|
1440p | 2−3
−3550%
| 73
+3550%
|
4K | 1−2
−4600%
| 47
+4600%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 4−5
−2300%
|
95−100
+2300%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−2400%
|
75−80
+2400%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 4−5
−2300%
|
95−100
+2300%
|
Battlefield 5 | 1−2
−14300%
|
144
+14300%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−2400%
|
75−80
+2400%
|
Fortnite | 11
−1109%
|
133
+1109%
|
Forza Horizon 4 | 7−8
−1729%
|
120−130
+1729%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9−10
−1367%
|
130−140
+1367%
|
Valorant | 30−35
−494%
|
200−210
+494%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 4−5
−2300%
|
95−100
+2300%
|
Battlefield 5 | 1−2
−13500%
|
136
+13500%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 27−30
−852%
|
270−280
+852%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−2400%
|
75−80
+2400%
|
Dota 2 | 15
−800%
|
135
+800%
|
Fortnite | 3−4
−4300%
|
132
+4300%
|
Forza Horizon 4 | 7−8
−1729%
|
120−130
+1729%
|
Grand Theft Auto V | 1−2
−12400%
|
125
+12400%
|
Metro Exodus | 2−3
−3650%
|
75
+3650%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9−10
−1367%
|
130−140
+1367%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−2267%
|
142
+2267%
|
Valorant | 30−35
−494%
|
200−210
+494%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 1−2
−12500%
|
126
+12500%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−2400%
|
75−80
+2400%
|
Dota 2 | 16−18
−647%
|
127
+647%
|
Forza Horizon 4 | 7−8
−1729%
|
120−130
+1729%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9−10
−1367%
|
130−140
+1367%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−1150%
|
75
+1150%
|
Valorant | 30−35
−300%
|
136
+300%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 3−4
−3500%
|
108
+3500%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 0−1 | 80−85 |
Counter-Strike: Global Offensive | 8−9
−2738%
|
220−230
+2738%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−1358%
|
170−180
+1358%
|
Valorant | 5−6
−4660%
|
230−240
+4660%
|
1440p
Ultra Preset
Cyberpunk 2077 | 1−2
−3500%
|
35−40
+3500%
|
Far Cry 5 | 1−2
−7700%
|
75−80
+7700%
|
Forza Horizon 4 | 3−4
−2900%
|
90−95
+2900%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 2−3
−2850%
|
55−60
+2850%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 2−3
−4200%
|
86
+4200%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 1−2
−2500%
|
24−27
+2500%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
−387%
|
73
+387%
|
Valorant | 7−8
−2743%
|
190−200
+2743%
|
4K
Ultra Preset
Cyberpunk 2077 | 0−1 | 16−18 |
Dota 2 | 1−2
−10200%
|
103
+10200%
|
Far Cry 5 | 2−3
−1950%
|
40−45
+1950%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 2−3
−1900%
|
40−45
+1900%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 2−3
−2050%
|
43
+2050%
|
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 180−190
+0%
|
180−190
+0%
|
Full HD
Medium Preset
Counter-Strike 2 | 180−190
+0%
|
180−190
+0%
|
Far Cry 5 | 118
+0%
|
118
+0%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+0%
|
100−110
+0%
|
Full HD
High Preset
Counter-Strike 2 | 180−190
+0%
|
180−190
+0%
|
Far Cry 5 | 111
+0%
|
111
+0%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+0%
|
100−110
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Far Cry 5 | 104
+0%
|
104
+0%
|
1440p
High Preset
Grand Theft Auto V | 60−65
+0%
|
60−65
+0%
|
Metro Exodus | 48
+0%
|
48
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100
+0%
|
100
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
Metro Exodus | 28
+0%
|
28
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 51
+0%
|
51
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 58
+0%
|
58
+0%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
+0%
|
60−65
+0%
|
นี่คือวิธีที่ HD Graphics 4400 และ RTX 2070 Super Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 2400% ในความละเอียด 900p
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 950% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 3550% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 4600% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 14300%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super Max-Q เหนือกว่าใน 44การทดสอบ (72%)
- เสมอกันใน 17การทดสอบ (28%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 1.17 | 30.44 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 กันยายน 2013 | 2 เมษายน 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 22 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 20 วัตต์ | 80 วัตต์ |
HD Graphics 4400 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX 2070 Super Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 2501.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 83.3%
GeForce RTX 2070 Super Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า HD Graphics 4400 ในการทดสอบประสิทธิภาพ