GeForce RTX 4080 เทียบกับ RTX 3050 Ti Mobile
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3050 Ti Mobile กับ GeForce RTX 4080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3050 Ti Mobile อย่างมหาศาลถึง 242% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 217 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | 63 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 29.11 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 24.16 | 19.34 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 11 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 735 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1035 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,250 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 82.80 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.299 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 48 | 112 |
TMUs | 80 | 304 |
Tensor Cores | 80 | 304 |
Ray Tracing Cores | 20 | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1400 MHz |
192.0 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 76
−208%
| 234
+208%
|
1440p | 43
−279%
| 163
+279%
|
4K | 28
−282%
| 107
+282%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 5.12 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 7.36 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 11.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 94
−156%
|
240−250
+156%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−316%
|
200−210
+316%
|
Cyberpunk 2077 | 62
−273%
|
231
+273%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 71
−220%
|
227
+220%
|
Battlefield 5 | 108
−82.4%
|
190−200
+82.4%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−343%
|
217
+343%
|
Cyberpunk 2077 | 59
−292%
|
231
+292%
|
Far Cry 5 | 79
−182%
|
223
+182%
|
Fortnite | 120−130
−150%
|
300−350
+150%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−251%
|
300−350
+251%
|
Forza Horizon 5 | 87
−186%
|
249
+186%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
−84.4%
|
170−180
+84.4%
|
Valorant | 160−170
−228%
|
550−600
+228%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 42
−388%
|
205
+388%
|
Battlefield 5 | 98
−101%
|
190−200
+101%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−312%
|
202
+312%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
−7.3%
|
270−280
+7.3%
|
Cyberpunk 2077 | 45
−367%
|
210
+367%
|
Dota 2 | 118
−111%
|
249
+111%
|
Far Cry 5 | 74
−195%
|
218
+195%
|
Fortnite | 120−130
−150%
|
300−350
+150%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−251%
|
300−350
+251%
|
Forza Horizon 5 | 58
−312%
|
239
+312%
|
Grand Theft Auto V | 94
−89.4%
|
178
+89.4%
|
Metro Exodus | 57
−274%
|
213
+274%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
−84.4%
|
170−180
+84.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 92
−492%
|
545
+492%
|
Valorant | 160−170
−228%
|
550−600
+228%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 89
−121%
|
190−200
+121%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−247%
|
170
+247%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−375%
|
190
+375%
|
Dota 2 | 113
−106%
|
233
+106%
|
Far Cry 5 | 68
−200%
|
204
+200%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−251%
|
300−350
+251%
|
Forza Horizon 5 | 57
−233%
|
190−200
+233%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
−84.4%
|
170−180
+84.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50
−418%
|
259
+418%
|
Valorant | 112
−413%
|
575
+413%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−150%
|
300−350
+150%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 170−180
−198%
|
500−550
+198%
|
Grand Theft Auto V | 41
−295%
|
162
+295%
|
Metro Exodus | 34
−353%
|
154
+353%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 200−210
−134%
|
450−500
+134%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 69
−184%
|
190−200
+184%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−233%
|
80−85
+233%
|
Cyberpunk 2077 | 22
−486%
|
129
+486%
|
Far Cry 5 | 50
−302%
|
201
+302%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−378%
|
300−350
+378%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−241%
|
150−160
+241%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
−366%
|
191
+366%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 55−60
−156%
|
150−160
+156%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 20−22
−350%
|
90−95
+350%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−583%
|
82
+583%
|
Grand Theft Auto V | 44
−320%
|
185
+320%
|
Metro Exodus | 21
−395%
|
104
+395%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 29
−545%
|
187
+545%
|
Valorant | 140−150
−131%
|
300−350
+131%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 38
−258%
|
130−140
+258%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−142%
|
29
+142%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−530%
|
63
+530%
|
Dota 2 | 54
−320%
|
227
+320%
|
Far Cry 5 | 21
−567%
|
140
+567%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−607%
|
300−350
+607%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−233%
|
80−85
+233%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−269%
|
95−100
+269%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 27−30
−193%
|
75−80
+193%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+0%
|
120−130
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3050 Ti Mobile และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 208% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 279% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 282% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 607%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 26.00 | 88.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 11 พฤษภาคม 2021 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 320 วัตต์ |
RTX 3050 Ti Mobile มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 326.7%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 241.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3050 Ti Mobile ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3050 Ti Mobile เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป