GeForce RTX 4070 Ti SUPER เทียบกับ MX450
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce MX450 กับ GeForce RTX 4070 Ti SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า MX450 อย่างมหาศาลถึง 747% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 467 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 91 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 49.05 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 26.85 | 19.95 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | N17S-G5 / GP107-670-A1 | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 สิงหาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 896 | 8448 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1395 MHz | 2340 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1575 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 25 Watt (12 - 29 Watt TGP) | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 100.8 | 689.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.226 TFLOPS | 44.1 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 64 | 264 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 264 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 66 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x4 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5, GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 10000 MHz | 1313 MHz |
64.03 จีบี/s | 672.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 30
−660%
| 228
+660%
|
1440p | 18
−733%
| 150
+733%
|
4K | 25
−248%
| 87
+248%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.50 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.33 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.18 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 21−24
−891%
|
220−230
+891%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−1012%
|
189
+1012%
|
Cyberpunk 2077 | 32
−516%
|
197
+516%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 21−24
−891%
|
220−230
+891%
|
Battlefield 5 | 49
−294%
|
190−200
+294%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−1012%
|
189
+1012%
|
Cyberpunk 2077 | 22
−791%
|
196
+791%
|
Far Cry 5 | 34
−497%
|
203
+497%
|
Fortnite | 61
−395%
|
300−350
+395%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−690%
|
300−350
+690%
|
Forza Horizon 5 | 34
−538%
|
210−220
+538%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−436%
|
170−180
+436%
|
Valorant | 85−90
−428%
|
450−500
+428%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 21−24
−891%
|
220−230
+891%
|
Battlefield 5 | 38
−408%
|
190−200
+408%
|
Counter-Strike 2 | 8
−2038%
|
171
+2038%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
−98.6%
|
270−280
+98.6%
|
Cyberpunk 2077 | 13
−1223%
|
172
+1223%
|
Dota 2 | 88
−695%
|
700−750
+695%
|
Far Cry 5 | 29
−579%
|
197
+579%
|
Fortnite | 39
−674%
|
300−350
+674%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−690%
|
300−350
+690%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
−843%
|
210−220
+843%
|
Grand Theft Auto V | 38
−358%
|
174
+358%
|
Metro Exodus | 10
−1860%
|
196
+1860%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−436%
|
170−180
+436%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 33
−1203%
|
430
+1203%
|
Valorant | 85−90
−428%
|
450−500
+428%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30
−543%
|
190−200
+543%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−782%
|
150
+782%
|
Cyberpunk 2077 | 8
−1875%
|
158
+1875%
|
Dota 2 | 81
−702%
|
650−700
+702%
|
Far Cry 5 | 27
−596%
|
188
+596%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−690%
|
300−350
+690%
|
Forza Horizon 5 | 22
−718%
|
180−190
+718%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−436%
|
170−180
+436%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−950%
|
210
+950%
|
Valorant | 85−90
−428%
|
450−500
+428%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 25
−1108%
|
300−350
+1108%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 70−75
−637%
|
500−550
+637%
|
Grand Theft Auto V | 11
−1309%
|
155
+1309%
|
Metro Exodus | 10−11
−1210%
|
131
+1210%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−280%
|
170−180
+280%
|
Valorant | 100−110
−375%
|
450−500
+375%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 22
−791%
|
190−200
+791%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−733%
|
100−105
+733%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−1200%
|
104
+1200%
|
Far Cry 5 | 20
−835%
|
187
+835%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
−1182%
|
280−290
+1182%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−713%
|
130−140
+713%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−1036%
|
159
+1036%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−695%
|
150−160
+695%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 8−9
−863%
|
75−80
+863%
|
Counter-Strike 2 | 3−4
−2300%
|
72
+2300%
|
Grand Theft Auto V | 20−22
−810%
|
182
+810%
|
Metro Exodus | 5−6
−1580%
|
84
+1580%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10−11
−1790%
|
180−190
+1790%
|
Valorant | 45−50
−592%
|
300−350
+592%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−12
−1136%
|
130−140
+1136%
|
Counter-Strike 2 | 3−4
−633%
|
22
+633%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−1567%
|
50
+1567%
|
Dota 2 | 32
−744%
|
270−280
+744%
|
Far Cry 5 | 9−10
−1222%
|
119
+1222%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−1553%
|
240−250
+1553%
|
Forza Horizon 5 | 7−8
−686%
|
55−60
+686%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9−10
−967%
|
95−100
+967%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 9−10
−778%
|
75−80
+778%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce MX450 และ RTX 4070 Ti SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 660% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 733% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 248% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 2300%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.63 | 81.59 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 สิงหาคม 2020 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 25 วัตต์ | 285 วัตต์ |
GeForce MX450 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1040%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 747.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX450 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce MX450 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป