Radeon Pro 560X เทียบกับ RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 กับ Radeon Pro 560X รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 580 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 560X อย่างมหาศาลถึง 141% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 251 | 471 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.58 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.56 | 8.77 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Polaris 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 16 กรกฎาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 1004 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | ไม่มีข้อมูล |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 3,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 64.26 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 2.056 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 144 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x8 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1270 MHz |
256.0 จีบี/s | 81.28 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 97
+137%
| 41
−137%
|
1440p | 43
+0%
| 43
+0%
|
4K | 37
+118%
| 17
−118%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.36 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.33 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 6.19 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
+164%
|
21−24
−164%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+141%
|
16−18
−141%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
+164%
|
21−24
−164%
|
Battlefield 5 | 124
+188%
|
43
−188%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+141%
|
16−18
−141%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Far Cry 5 | 83
+124%
|
37
−124%
|
Fortnite | 153
+132%
|
66
−132%
|
Forza Horizon 4 | 108
+104%
|
53
−104%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+165%
|
21−24
−165%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
+166%
|
30−35
−166%
|
Valorant | 150−160
+75%
|
85−90
−75%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
+164%
|
21−24
−164%
|
Battlefield 5 | 102
+183%
|
36
−183%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+141%
|
16−18
−141%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+185%
|
86
−185%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Dota 2 | 110−120
+63.4%
|
71
−63.4%
|
Far Cry 5 | 76
+130%
|
33
−130%
|
Fortnite | 106
+165%
|
40
−165%
|
Forza Horizon 4 | 101
+102%
|
50
−102%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+165%
|
21−24
−165%
|
Grand Theft Auto V | 77
+133%
|
33
−133%
|
Metro Exodus | 48
+153%
|
19
−153%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
+75%
|
40
−75%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+112%
|
34
−112%
|
Valorant | 150−160
+75%
|
85−90
−75%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 93
+182%
|
33
−182%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+141%
|
16−18
−141%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Dota 2 | 110−120
+68.1%
|
69
−68.1%
|
Far Cry 5 | 71
+129%
|
31
−129%
|
Forza Horizon 4 | 82
+128%
|
36
−128%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+165%
|
21−24
−165%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
+53.1%
|
30−35
−53.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+120%
|
20
−120%
|
Valorant | 150−160
+492%
|
26
−492%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 80
+150%
|
32
−150%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+144%
|
9−10
−144%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
+170%
|
57
−170%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+192%
|
12−14
−192%
|
Metro Exodus | 28
+155%
|
11
−155%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+287%
|
45−50
−287%
|
Valorant | 190−200
+91.1%
|
100−110
−91.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+190%
|
21−24
−190%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+200%
|
7−8
−200%
|
Far Cry 5 | 45−50
+158%
|
18−20
−158%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+162%
|
21−24
−162%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+144%
|
16−18
−144%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+150%
|
14−16
−150%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+168%
|
18−20
−168%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+143%
|
7−8
−143%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+233%
|
3−4
−233%
|
Grand Theft Auto V | 57
+338%
|
13
−338%
|
Metro Exodus | 18
+157%
|
7
−157%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
+200%
|
9−10
−200%
|
Valorant | 120−130
+164%
|
45−50
−164%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
+270%
|
10−11
−270%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+233%
|
3−4
−233%
|
Cyberpunk 2077 | 9−10
+200%
|
3−4
−200%
|
Dota 2 | 70−75
+118%
|
30−35
−118%
|
Far Cry 5 | 26
+160%
|
10
−160%
|
Forza Horizon 4 | 41
+173%
|
14−16
−173%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
+233%
|
6−7
−233%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18
+125%
|
8−9
−125%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+188%
|
8−9
−188%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 12−14
+0%
|
12−14
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 30
+0%
|
30
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ Pro 560X แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เร็วกว่า 137% ในความละเอียด 1080p
- เสมอกันในความละเอียด 1440p
- RX 580 เร็วกว่า 118% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 492%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.71 | 9.44 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 16 กรกฎาคม 2018 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 140.6% และ
ในทางกลับกัน Pro 560X มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 146.7%
Radeon RX 580 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 560X ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 580 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro 560X เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา