GeForce RTX 4070 เทียบกับ Radeon Pro 560X
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 560X กับ GeForce RTX 4070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 560X อย่างมหาศาลถึง 633% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 471 | 24 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 36 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 60.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.77 | 24.11 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 21 | AD104 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 16 กรกฎาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1004 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,000 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 64.26 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.056 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 16 | 64 |
TMUs | 64 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 240 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1270 MHz | 1313 MHz |
81.28 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 41
−424%
| 215
+424%
|
1440p | 43
−181%
| 121
+181%
|
4K | 17
−329%
| 73
+329%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.79 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.95 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 21−24
−1355%
|
320
+1355%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−876%
|
160−170
+876%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−1100%
|
216
+1100%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 21−24
−1036%
|
250
+1036%
|
Battlefield 5 | 43
−305%
|
170−180
+305%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−876%
|
160−170
+876%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−867%
|
174
+867%
|
Far Cry 5 | 37
−468%
|
210
+468%
|
Fortnite | 66
−358%
|
300−350
+358%
|
Forza Horizon 4 | 53
−383%
|
250−260
+383%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
−722%
|
180−190
+722%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−453%
|
170−180
+453%
|
Valorant | 85−90
−315%
|
350−400
+315%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 21−24
−573%
|
148
+573%
|
Battlefield 5 | 36
−383%
|
170−180
+383%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−876%
|
160−170
+876%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 86
−223%
|
270−280
+223%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−694%
|
143
+694%
|
Dota 2 | 71
−604%
|
500−550
+604%
|
Far Cry 5 | 33
−518%
|
204
+518%
|
Fortnite | 40
−655%
|
300−350
+655%
|
Forza Horizon 4 | 50
−412%
|
250−260
+412%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
−722%
|
180−190
+722%
|
Grand Theft Auto V | 33
−427%
|
174
+427%
|
Metro Exodus | 19
−784%
|
168
+784%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
−343%
|
170−180
+343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 34
−932%
|
351
+932%
|
Valorant | 85−90
−315%
|
350−400
+315%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 33
−427%
|
170−180
+427%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−876%
|
160−170
+876%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−611%
|
128
+611%
|
Dota 2 | 69
−625%
|
500−550
+625%
|
Far Cry 5 | 31
−510%
|
189
+510%
|
Forza Horizon 4 | 36
−611%
|
250−260
+611%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
−596%
|
160−170
+596%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−453%
|
170−180
+453%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−750%
|
170
+750%
|
Valorant | 26
−1304%
|
350−400
+1304%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 32
−844%
|
300−350
+844%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 57
−774%
|
450−500
+774%
|
Grand Theft Auto V | 12−14
−954%
|
137
+954%
|
Metro Exodus | 11
−845%
|
104
+845%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−289%
|
170−180
+289%
|
Valorant | 100−110
−340%
|
400−450
+340%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
−676%
|
160−170
+676%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−608%
|
85−90
+608%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−1057%
|
81
+1057%
|
Far Cry 5 | 18−20
−800%
|
171
+800%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
−948%
|
220−230
+948%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−588%
|
110−120
+588%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−993%
|
150−160
+993%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−695%
|
150−160
+695%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 7−8
−757%
|
60−65
+757%
|
Counter-Strike 2 | 3−4
−1400%
|
45−50
+1400%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 30
−600%
|
210−220
+600%
|
Grand Theft Auto V | 13
−1023%
|
146
+1023%
|
Metro Exodus | 7
−829%
|
65
+829%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
−1178%
|
115
+1178%
|
Valorant | 45−50
−604%
|
300−350
+604%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−11
−1090%
|
110−120
+1090%
|
Counter-Strike 2 | 3−4
−1400%
|
45−50
+1400%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−1100%
|
36
+1100%
|
Dota 2 | 30−35
−627%
|
240−250
+627%
|
Far Cry 5 | 10
−830%
|
93
+830%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−1047%
|
170−180
+1047%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
−567%
|
40−45
+567%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
−1100%
|
95−100
+1100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−888%
|
75−80
+888%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
+0%
|
60−65
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 560X และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 424% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 181% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 329% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 1400%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.44 | 69.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 16 กรกฎาคม 2018 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 200 วัตต์ |
Pro 560X มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 166.7%
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 632.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 560X ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 560X เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 4070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป