GeForce MX450 เทียบกับ RTX 2070 Super Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2070 Super Max-Q และ GeForce MX450 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2070 Super Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า MX450 อย่างมหาศาลถึง 264% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 152 | 475 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 30.10 | 26.49 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | TU104 | N17S-G5 / GP107-670-A1 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 1 สิงหาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 896 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 1395 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1155 MHz | 1575 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 4,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 25 Watt (12 - 29 Watt TGP) |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 184.8 | 100.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.914 TFLOPS | 3.226 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 160 | 64 |
Tensor Cores | 320 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 40 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x4 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR5, GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1375 MHz | 10000 MHz |
352.0 จีบี/s | 64.03 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | - | + |
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.2 |
CUDA | 7.5 | 7.5 |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 105
+275%
| 28
−275%
|
1440p | 73
+356%
| 16
−356%
|
4K | 47
+88%
| 25
−88%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 180−190
+115%
|
88
−115%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+134%
|
32
−134%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+363%
|
16−18
−363%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 144
+194%
|
49
−194%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+182%
|
67
−182%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+241%
|
22
−241%
|
Far Cry 5 | 118
+247%
|
34
−247%
|
Fortnite | 133
+118%
|
61
−118%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
+220%
|
40−45
−220%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+206%
|
34
−206%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+363%
|
16−18
−363%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+300%
|
30−35
−300%
|
Valorant | 200−210
+127%
|
85−90
−127%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 136
+258%
|
38
−258%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+575%
|
28
−575%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+97.9%
|
140−150
−97.9%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+477%
|
13
−477%
|
Dota 2 | 135
+53.4%
|
88
−53.4%
|
Far Cry 5 | 111
+283%
|
29
−283%
|
Fortnite | 132
+238%
|
39
−238%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
+220%
|
40−45
−220%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+300%
|
26
−300%
|
Grand Theft Auto V | 125
+229%
|
38
−229%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+363%
|
16−18
−363%
|
Metro Exodus | 75
+650%
|
10
−650%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+300%
|
30−35
−300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 142
+330%
|
33
−330%
|
Valorant | 200−210
+127%
|
85−90
−127%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 126
+320%
|
30
−320%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+838%
|
8
−838%
|
Dota 2 | 127
+56.8%
|
81
−56.8%
|
Far Cry 5 | 104
+285%
|
27
−285%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
+220%
|
40−45
−220%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+363%
|
16−18
−363%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+300%
|
30−35
−300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75
+275%
|
20
−275%
|
Valorant | 136
+52.8%
|
85−90
−52.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
+332%
|
25
−332%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80−85
+406%
|
16−18
−406%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
+226%
|
70−75
−226%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
+491%
|
11
−491%
|
Metro Exodus | 48
+380%
|
10−11
−380%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+289%
|
45−50
−289%
|
Valorant | 230−240
+133%
|
100−110
−133%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100
+355%
|
22
−355%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+350%
|
8−9
−350%
|
Far Cry 5 | 75−80
+290%
|
20
−290%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+309%
|
21−24
−309%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
+280%
|
10−11
−280%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+362%
|
12−14
−362%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 86
+353%
|
18−20
−353%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+1750%
|
2−3
−1750%
|
Grand Theft Auto V | 73
+265%
|
20−22
−265%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
+425%
|
4−5
−425%
|
Metro Exodus | 28
+460%
|
5−6
−460%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 51
+410%
|
10−11
−410%
|
Valorant | 190−200
+323%
|
45−50
−323%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 58
+427%
|
10−12
−427%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+1750%
|
2−3
−1750%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+433%
|
3−4
−433%
|
Dota 2 | 103
+222%
|
32
−222%
|
Far Cry 5 | 40−45
+310%
|
10−11
−310%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
+300%
|
14−16
−300%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
+425%
|
4−5
−425%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+344%
|
9−10
−344%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 43
+378%
|
9−10
−378%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2070 Super Max-Q และ GeForce MX450 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 275% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 356% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 88% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 1750%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2070 Super Max-Q เหนือกว่า GeForce MX450 ในการทดสอบทั้ง 66 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 34.07 | 9.37 |
ความใหม่ล่าสุด | 2 เมษายน 2020 | 1 สิงหาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 25 วัตต์ |
RTX 2070 Super Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 263.6% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX450 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 220%
GeForce RTX 2070 Super Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX450 ในการทดสอบประสิทธิภาพ