GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ Radeon RX 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5500M กับ GeForce RTX 4070 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5500M อย่างมหาศาลถึง 434% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 360 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 13 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 67.34 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.86 | 24.48 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 ตุลาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1375 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1645 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 144.8 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.632 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 32 | 80 |
TMUs | 88 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 224 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
224.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 58
−276%
| 218
+276%
|
1440p | 63
−127%
| 143
+127%
|
4K | 30
−187%
| 86
+187%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.75 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.19 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 6.97 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 43
−333%
|
186
+333%
|
Cyberpunk 2077 | 55
−427%
|
290−300
+427%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 45−50
−144%
|
110−120
+144%
|
Counter-Strike 2 | 37
−392%
|
182
+392%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−425%
|
210−220
+425%
|
Forza Horizon 4 | 101
−330%
|
434
+330%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−433%
|
200−210
+433%
|
Metro Exodus | 40−45
−285%
|
150−160
+285%
|
Red Dead Redemption 2 | 57
−154%
|
140−150
+154%
|
Valorant | 108
−306%
|
400−450
+306%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 45−50
−144%
|
110−120
+144%
|
Counter-Strike 2 | 30
−430%
|
159
+430%
|
Cyberpunk 2077 | 31
−416%
|
160−170
+416%
|
Dota 2 | 88
−96.6%
|
173
+96.6%
|
Far Cry 5 | 35
−334%
|
152
+334%
|
Fortnite | 80−85
−276%
|
300−350
+276%
|
Forza Horizon 4 | 82
−422%
|
428
+422%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−433%
|
200−210
+433%
|
Grand Theft Auto V | 79
−119%
|
173
+119%
|
Metro Exodus | 16
−363%
|
74
+363%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 88
−144%
|
210−220
+144%
|
Red Dead Redemption 2 | 32
−353%
|
140−150
+353%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−287%
|
170−180
+287%
|
Valorant | 57
−670%
|
400−450
+670%
|
World of Tanks | 191
−46.1%
|
270−280
+46.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−144%
|
110−120
+144%
|
Counter-Strike 2 | 28
−396%
|
139
+396%
|
Cyberpunk 2077 | 27
−419%
|
140−150
+419%
|
Dota 2 | 103
−434%
|
550−600
+434%
|
Far Cry 5 | 90
−63.3%
|
140−150
+63.3%
|
Forza Horizon 4 | 72
−429%
|
381
+429%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−433%
|
200−210
+433%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−110
−103%
|
210−220
+103%
|
Valorant | 55−60
−644%
|
400−450
+644%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 21−24
−605%
|
148
+605%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−573%
|
148
+573%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 175
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 12−14
−615%
|
90−95
+615%
|
World of Tanks | 137
−277%
|
500−550
+277%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−200%
|
85−90
+200%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−172%
|
87
+172%
|
Cyberpunk 2077 | 8
−400%
|
40−45
+400%
|
Far Cry 5 | 35−40
−357%
|
160−170
+357%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−636%
|
265
+636%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
−583%
|
150−160
+583%
|
Metro Exodus | 47
−191%
|
130−140
+191%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
−711%
|
154
+711%
|
Valorant | 35−40
−925%
|
350−400
+925%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
−920%
|
100−110
+920%
|
Dota 2 | 20
−730%
|
166
+730%
|
Grand Theft Auto V | 20
−730%
|
166
+730%
|
Metro Exodus | 10−11
−640%
|
74
+640%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 72
−190%
|
200−210
+190%
|
Red Dead Redemption 2 | 9−10
−611%
|
60−65
+611%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−730%
|
166
+730%
|
World of Tanks | 76
−426%
|
400−450
+426%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14−16
−550%
|
90−95
+550%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−920%
|
100−110
+920%
|
Cyberpunk 2077 | 3
−433%
|
16−18
+433%
|
Dota 2 | 53
−428%
|
280−290
+428%
|
Far Cry 5 | 18−20
−483%
|
100−110
+483%
|
Fortnite | 16−18
−465%
|
95−100
+465%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
−529%
|
132
+529%
|
Forza Horizon 5 | 10−12
−809%
|
100−105
+809%
|
Valorant | 16−18
−1244%
|
210−220
+1244%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5500M และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 276% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 127% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 187% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 1244%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.62 | 78.13 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 ตุลาคม 2019 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RX 5500M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 158.8%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 434.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 5500M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ